รายงานจาก บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ว่า การผลิตรถยนต์ BMW จากโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย จ.ระยอง มกราคม-มิถุนายน 2564 เพิ่มถึง 35.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 และเพิ่มขึ้น 31.4% หากเทียบกับเดือนมกราคม-มิถุนายน ปี 2562 ซึ่งเป็นผลจากจำนวนการสั่งจองอย่างต่อเนื่อง พร้อมความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการส่งออก
ส่วนตลาดในประเทศ ช่วงครึ่งแรกของปี 2564 บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ มียอดส่งมอบรถ 5,037 คัน และ 536 คัน เติบโต 33% และ 40% ตามลำดับ ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด มียอดส่งมอบ 623 คัน เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2563
นายอเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่สองของปี 2564 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นที่ไม่ได้มีเพียงด้านการผลิตและการขายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเติบโตในระยะยาว ความใส่ใจที่มีต่อลูกค้าและสังคม ทีมงานยังแสดงถึงการยืนหยัด และไม่ยอมแพ้กับความท้าทายช่วงวิกฤติโควิด-19 โดยได้ปรับและเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้เป็นไปตามความต้องการช่วงนิวนอร์มัลนี้
จากผลกระทบที่รุนแรงของสถานการณ์ระบาดที่มีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ การให้บริการของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มีการปรับเปลี่ยนในด้านดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบมากขึ้น ในระหว่างไตรมาสที่สอง บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยยังคงนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้อย่างต่อเนื่อง ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการขาย การเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ๆ และงานอีเว้นต์ต่างๆ
“การปรับตัวของเราทำให้ยังคงเชื่อมต่อกับผู้จำหน่ายและลูกค้า เพื่อมอบโซลูชั่นที่พร้อมด้วยนวัตกรรมต่าง ๆ และตัวเลือกในผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น” นายบารากา กล่าว