นาย เอริค ลาบัท ประธานของวอลโว่ ทรัคส์ ประเทศไทย กล่าวว่า ได้เปิดตัวรถบรรทุกสำหรับงานหนักรุ่นใหม่สี่รุ่น ซึ่งถือเป็นเจเนอเรชันใหม่ของวอลโว่ โดยประกอบไปด้วย Volvo FH, FH16, FM และ FMX สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ได้รับการพัฒนาโดยมุ่งเน้นไปในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมของผู้ขับขี่ เสริมความปลอดภัย และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของยานพาหนะ ส่งผลให้มีประสิทธิภาพสูงกว่ารถบรรทุกรุ่นก่อนๆ
"รถบรรทุกใหม่ทั้งสี่รุ่นนี้ให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมของผู้ขับขี่ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพการทำงาน โดยตั้งเป้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีที่สุดของลูกค้าเพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และช่วยรักษาพนักงานขับรถที่มีความสามารถที่กำลังขาดแคลนในปัจจุบัน"
สำหรับรถในรุ่นใหม่ อย่าง Volvo FM และ Volvo FMX มาพร้อมกับห้องโดยสารแบบใหม่ และมีฟังก์ชันการแสดงผลบนหน้าปัดคล้ายคลึงกับรถบรรทุกวอลโว่รุ่นที่ใหญ่กว่า ปริมาตรภายในห้องโดยสารที่เพิ่มขึ้นถึงหนึ่งลูกบาศก์เมตรมอบความสะดวกสบายและพื้นที่ในการทำงานที่กว้างขวางยิ่งขึ้น พร้อมให้ทัศนวิสัยดียิ่งขึ้นด้วยหน้าต่างบานใหญ่ แนวขอบประตูที่ต่ำกว่าเดิม และแผงกระจกใหม่ คอพวงมาลัยที่ปรับเอียงได้ทำให้ผู้ขับขี่สามารถปรับตำแหน่งการขับขี่ให้เหมาะสมที่สุดได้
หัวเก๋งพร้อมที่นอน (Sleeper Cab) ใหม่ได้รับการปรับปรุงให้มีเตียงยกสูงขึ้นและเพิ่มพื้นที่เก็บของ ซึ่งรวมถึงช่องเก็บของขนาดใหญ่ใต้เตียงและช่องเก็บของด้านหลังชั้นบนพร้อมแผงไฟแอลอีดีในแผงกั้นระหว่างช่อง การลุกจากที่นั่งคนขับไปที่เตียงทำได้ง่ายกว่าเดิมเนื่องจากมีคันเกียร์ I-Shift แบบใหม่ที่เล็กลงและออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ความสะดวกสบายของห้องโดยสารได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นด้วยฉนวนเสริมที่ช่วยป้องกันความร้อนและเสียงรบกวนจากภายนอก
รถบรรทุกใหม่ทุกรุ่นมีอินเทอร์เฟซใหม่ให้ผู้ขับขี่ โดยพื้นที่รอบตัวผู้ขับขี่มีอินเทอร์เฟซใหม่หมดทั้งการแสดงข้อมูลและการสื่อสาร มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ขับขี่เห็นภาพรวมและจัดการฟังก์ชันต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ช่วยลดความเครียดและสิ่งรบกวนต่างๆ จอแสดงผลบนหน้าปัดเป็นแบบดิจิตอลทั้งหมด โดยมีหน้าจอขนาด 12 นิ้วที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เลือกข้อมูลที่ต้องการได้สะดวก
อีกทั้งจอแสดงผลด้านข้างขนาด 9 นิ้ว สำหรับระบบสาระบันเทิง ระบบนำทาง ข้อมูลการขนส่ง และกล้องตรวจสอบ การควบคุมฟังก์ชันต่างๆ สั่งงานได้จากปุ่มบนพวงมาลัย หรือสั่งงานผ่านหน้าจอสัมผัสและแผงควบคุมการแสดงผลก็ได้
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control: ACC) ที่ทำงานได้จนถึงความเร็วที่ 0 กม./ชม. และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบดาวน์ฮิลล์ (Downhill Cruise Control) ที่สั่งงานเบรกล้อโดยอัตโนมัติเมื่อจำเป็นต้องใช้แรงเบรกเป็นพิเศษเพื่อรักษาความเร็วขณะขับลงทางลาดให้คงที่
ระบบเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (Electronically controlled Brake System: EBS) ซึ่งเป็นระบบเบื้องต้นที่ทำงานร่วมกับคุณลักษณะด้านความปลอดภัยอื่นๆ เช่น การเตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรกฉุกเฉิน (Collision Warning with Emergency Brake) และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Stability Control)ทั้งหมดนี้ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถบรรทุกใหม่ ตั้งแต่รุ่น Volvo FM13 ขึ้นไป
ส่วนระบบพวงมาลัยวอลโว่ไดนามิกสเตียริ่ง (Volvo Dynamic Steering) พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อขับขี่ออกนอกช่องทางและควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (Lane Keeping Assist and Stability Assist) มีให้เลือกเป็นอุปกรณ์เสริม และทัศนวิสัยได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นโดยการเพิ่มกล้องมุมฝั่งผู้โดยสาร (passenger corner camera) ซึ่งช่วยเสริมมุมมองด้านข้างรถบรรทุกผ่านหน้าจอแสดงผลด้านข้าง
รถรุ่นใหม่ยังมีคุณลักษณะต่างๆ เช่น ระบบเสริมแรงบิดวอลโว่ (Volvo Torque Assist) และซอฟต์แวร์ใหม่ในเกียร์วอลโว่ I-Shift ที่ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงยิ่งขึ้น
วอลโว่ ทรัคส์ ได้พัฒนาระบบ Volvo Connect ซึ่งเป็นโซลูชันดิจิทัลที่มีความยืดหยุ่น เพื่อรองรับธุรกิจขนส่งในทุกด้านโดยเชื่อมต่อฟังก์ชันและแอปพลิเคชันที่สำคัญไว้ในแพลตฟอร์มเดียวเพื่อให้ใช้งานง่าย โดยลูกค้าสามารถเข้าใช้ Volvo Connect ได้ทุกที่ทุกเวลาจากอุปกรณ์และขนาดหน้าจอที่หลากหลาย
อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายช่วยให้ผู้ใช้วางแผนเส้นทาง จัดสรรเวลาขับขี่และเวลาพักผ่อน และตรวจสอบตำแหน่งของรถบรรทุกเพื่อติดตามความคืบหน้าได้โดยสะดวก นอกจากนี้ยังง่ายสำหรับการค้นหากำหนดเข้ารับบริการ และตรวจสอบประวัติการซ่อมแซมและบำรุงรักษา จึงช่วยลดการหยุดรถโดยไม่ได้วางแผนและทำให้รถบรรทุกพร้อมวิ่งทำงานได้เต็มที่ตลอดเวลา
นาย เอริค กล่าวเพิ่มเติมว่าเพื่อเป็นการฉลองการเปิดตัวของวอลโว่ บริษัทฯจึงมีข้อเสนอพิเศษสำหรับสั่งซื้อรถบรรทุกใหม่ พร้อมกันนั้นมีแผนจะขยายตัวแทนศูนย์บริการจากปัจจุบันที่มี 15 แห่งก็จะเพิ่มเป็น 18 แห่งทั่วประเทศในต้นปี 2565