ปอร์เช่ ยืนยันตั้งโรงงานประกอบรถมาเลเซีย เริ่มผลิต-ส่งออกในอาเซียน ปี 2565

รายงานจาก ปอร์เช่ เอจี  เปิดเผยว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นตัวแทนของตลาดรถยนต์ปอร์เช่ที่มีการแข่งขันสูงมาก ทั้งในด้านของอัตราการเติบโต และแนวโน้มของการยอมรับด้านนวัตกรรม ขณะนี้ ปอร์เช่กำลังอยู่ในระหว่างการขยายเส้นทางสู่ความสำเร็จในอนาคตและต่อยอดความสำเร็จเหล่านั้นไปยังสมาชิกตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั้ง 10 ราย ในกลุ่มประเทศอาเซียน โดย Sime Darby Berhad  คือหนึ่งในเครือข่ายความร่วมมือระยะยาวของ โรงงานผลิตปอร์เช่ในประเทศมาเลเซีย

โรงงานผลิตรถยนต์ปอร์เช่ ประเทศมาเเซีย จะรับผิดชอบงานประกอบรถยนต์ในขั้นตอนสุดท้าย ด้วยอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ที่เทียบเท่ากับมาตรฐานของเครือข่ายสายการผลิตรถยนต์ปอร์เช่ในทวีปยุโรป ซึ่งกระบวนการผลิตสำหรับตลาดรถยนต์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเริ่มขึ้นใน 2565 เป็นต้นไป

Detlev von Platen สมาชิกคณะกรรมการบริหารผู้กำกับดูแลส่วนงานขายและการตลาดของปอร์เช่ เอจี กล่าวว่า ประเทศมาเลเซีย และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนทั้งหมด เต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพ เราเฝ้ารอการเริ่มต้นของโรงงานประกอบท้องถิ่นแห่งแรก สำหรับการผลิตรถยนต์ให้กับลูกค้าชาวมาเลเซียในปีหน้า การดำเนินงานดังกล่าว คือส่วนหนึ่งของการเริ่มต้นโครงการระยะยาว ของปอร์เช่ในการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่สำหรับยานพาหนะแห่งโลกอนาคต เพื่อดำรงไว้ซึ่งประสิทธิภาพในการปรับตัวรองรับความต้องการของลูกค้าและตลาดรถยนต์ทั่วโลก

จากตัวเลขผลตอบรับที่ดีของลูกค้า ปอร์เช่มีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อรองรับความต้องการรถยนต์ของเราทั่วโลก ทั้งในปัจจุบันและอนาคต โรงงานประกอบรถยนต์แห่งใหม่ในประเทศมาเลเซีย จะสามารถรองรับความต้องการเฉพาะทางในภูมิภาคได้ดีขึ้น ถึงแม้จะเป็นโครงการอิสระที่มีขนาดและกำลังการผลิตระดับเริ่มต้น ทั้งหมดนี้ถือเป็นสัญญาณสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ในการเรียนรู้และการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดรถยนต์ปอร์เช่แต่ละพื้นที่

โดยตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ปอร์เช่มีความสัมพันธ์อันดีและได้รับโอกาสในการร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับ Sime Darby Berhad ในฐานะผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายยนตรกรรมสปอร์ตรายใหญ่  โดยความร่วมมือระหว่าง 2 องค์กร ก่อให้เกิดการเติบโตและการขยายฐานกลุ่มลูกค้ารถยนต์ปอร์เช่ในประเทศมาเลเซีย รวมถึงการสร้างผลตอบรับที่ดีเยี่ยม แม้ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย พิสูจน์ได้จากยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9% เมื่อปี 2563