รีวิว Ora Good Cat ดีไหม EV จีน น่าใช้หรือเปล่า

ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 29 ตุลาคมนี้ ก็เดาราคากันไปครับ สำหรับ Ora Good Cat รถพลังงานไฟฟ้า 100% EV จากจีน ที่แบ่งการขายเป็นสามรุ่นย่อย คือ 400 Tech,400 Pro และ 500 Ultra

โดยตัวเลข 400 หรือ 500 ในชื่อรุ่นหมายถึงระยะทางที่ Ora Good Cat วิ่งได้จากการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง นั่นก็คือ 400 กิโลเมตร กับ 500 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ส่วนราคาขาย Ora Good Cat ผมคาดเดาเอาเองว่า น่าจะมี 8 แสนบาทปลายๆ ไปจนถึงตัวท็อป 1 ล้านนิดๆ แต่ไม่เกิน 1.2 ล้านบาท ซึ่งก่อนเปิดตัวและแจ้งราคา “เกรท วอลล์ มอเตอร์” ให้พรีบุ๊คกิ้งตามสไตล์ เห็นว่าได้การตอบรับดีนะครับ แค่ 24 ชั่วโมงแรก หลังเปิดให้จองสิทธิ์ซื้อตอนเที่ยงคืนหนึ่งนาที (00.01 น.) ของวันที่ 14 ตุลาคม ได้ยอดไป 4,296 คัน

 

...แล้วที่น่าสนใจ คือ Ora Good Cat รุ่นที่ได้รับการตอบรับมากที่สุดคือตัวท็อป 500 Ulta และสีที่ถูกจองมากที่สุดคือสีเบจหลังคาสีน้ำตาล ซึ่งสีนี้ผมว่าน่าจะโดนใจคุณผู้หญิง ซึ่งก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ผมมีโอกาสได้ลองเจ้าแมวพลังงานไฟฟ้า รุ่น 400 Pro จากเมืองทองธานี จ.นนทบุรี ไป จ.ราชบุรี ระยะไปกลับประมาณ 200 กิโลเมตร

 

ตัวรถทรงแฮตช์แบ็ก เส้นสายโค้งมนรับกับไฟหน้าวงรี ออกแนวปอร์เช่ 911 (เห็นว่าไปดึงอดีตทีมออกแบบของปอร์เช่มาด้วย) ตัวถังยาว 4,235 มม. กว้าง 1,825 มม. สูง 1,596 มม.ระยะต่ำสุดจากพื้น 145 มิลลิเมตร ถ้าเทียบขนาดกับแฮตช์แบ็กรุ่นยอดนิยมอย่างฮอนด้าซิตี้ พบว่า Ora Good Cat ตัวถังสั้นกว่าแต่ระยะฐานล้อ 2,650 มม. นั้น ยาวกว่าเช่นเดียวกับความกว้างความสูงที่มากกว่า

ประเด็นนี้สะท้อนบุคลิกการขับขี่ และพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี เมื่อตัวรถหน้ากว้าง แต่ขับจริงๆ ยังคล่องตัว ส่วนการจอดหรือการถอยสะดวกคล่องแคล่ว (มีกล้องรอบคันและถ้าเป็นตัวท็อป 500 Ultra จะมีระบบช่วยจอดอัตโนมัติมาให้ด้วย)

ภายในห้องโดยสาร Ora Good Cat โปร่งโล่งสะอาดตา ใช้วัสดุหนังสังเคราะห์แต้มแต่งทั้งแผงแดชบอร์ด พวงมาลัย รวมถึงเบาะนั่งที่ปรับตำแหน่งด้วยระบบไฟฟ้า ยิ่งรุ่นท็อปสีทูโทน น่าจะเรียกเงินจากกระเป๋าคุณผู้หญิงได้ไม่ยาก ส่วนรุ่น 400 Pro ที่ผมขับนั้น การตกแต่งภายในจะเป็นสีดำ แต่ดูเคร่งขรึมไปอีกแบบ

หน้าจอกลางระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว (ถ้าเต็มทั้งแผงขนาด 17.25 นิ้ว) เป็นศูนย์ควบคุมของรถ ทั้ง ระบบความปลอดภัย การปรับน้ำหนักพวงมาลัย ระดับการหน่วงของเบรก (Energy Recovery) รวมถึงแอร์ การฟังเพลง การเชื่อมต่อต่างๆ Apple CarPlay,Android Auto แอปพลิเคชั่นฟังเพลง และระบบนำทาง ซึ่งรองรับการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยที่แม่นยำ

 

ภายในกว้างขวางนั่งสบาย แต่เรื่องการเก็บเสียงรบกวนจากภายนอกอยู่ในระดับพอใช้ และไม่ได้ดีกว่าเก๋งคอมแพกต์แบรนด์ญี่ปุ่นที่ขายอยู่ในตลาด ด้านการขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ตัวเดียวและมีหนึ่งเกียร์ควบคุมการส่งกำลังก่อนถึงเพลา โดยมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 143 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตัน-เมตร  อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม.ทำได้ 3.8 วินาที

 

Ora Good Cat เลือกโหมดการขับขี่ได้ ทั้งแบบ Eco Normal Auto และ Sport โดยโหมด Normal นั้นเรี่ยวแรงดี ตอบสนองรวดเร็วระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่ถ้าปรับเป็นโหมด Sport ในน้ำหนักเท้าที่กดแป้นคันเร่งเท่าๆ กัน ระบบจะปลดปล่อยพลังให้เกรี้ยวกราดขึ้นไปอีก

 

ขณะเดียวกัน การขับขี่ในความเร็วสูงตัวรถยังให้ความมั่นใจในระดับสูง การเกาะถนน การทรงตัว มีเสถียรภาพมาก ส่วนหนึ่งเพราะมีชุดแพกแบตเตอรี่ วางถ่วงน้ำหนักอยู่บนพื้นห้องโดยสาร

ตัวแบตเตอรี่ค่อนข้างหนักครับ(อยากให้รถวิ่งได้ไกลๆ) โดยรุ่น 400 Pro และ Tech จะใช้ ลิเธียมไออน ฟอสเฟส ความจุ 47.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง ส่งผลให้รถมีน้ำหนักรวม1,495 กก. ส่วนรุ่น 500 Ultra  ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม แมงกานีส ความจุ 63.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำให้ตัวรถหนัก 1,550 กก. (เทียบเท่า ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริดเลยทีเดียว)

 

รวบรัดตัดความ...Ora Good Cat รูปลักษณ์โดดเด่น ได้ความสดใหม่ และกำลังเป็นกระแสจนทำให้หลายคนอาจจะมองระบบขับเคลื่อน EV เป็นประเด็นรอง ซึ่งการซื้อไปใช้จริงต้องปรับตัวนะครับ เพราะมันต่างจากการใช้รถกินน้ำมัน ส่วนสมรรถนะการขับขี่ได้เรื่องความแรงแบบกระชากหลังติดเบาะ พร้อมช่วงล่างแน่น ออพชันเยอะ แต่อย่างไรก็คงต้องรอดูราคาในวันที่ 29 ตุลาคม นี้ อีกครั้ง ว่าจะ บาย...Buy หรือ บาย...Bye

เรื่อง : กรกิต กสิคุณ

ภาพ : เกรท วอลล์ มอเตอร์