BMW โดย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ย้ำ 9 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย 64) ยังรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดรถหรู ด้วยยอดจดทะเบียนรวม 8,600 คัน ฝั่ง “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ไม่ได้แจ้งยอดขาย แต่ประธานใหญ่มั่นใจว่า ถึงสิ้นปีจะเป็นแชมป์แน่นอน
ศึกแย่งตำแหน่งแชมป์รถหรูในเมืองไทยยังร้อนระอุ หลังผ่านไป 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย 64) BMW นำยอดจดทะเบียนรถใหม่ของกรมการขนส่งทางบกออกมาแจง และเคลมว่ายอดขายนำเมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 41.3%
รายงานจาก บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ว่า ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ อยู่ที่ 8,600 คัน แบ่งเป็น “บีเอ็มดับเบิลยู” BMW 7,759 คัน “มินิ” 841 คัน ส่งผลให้บีเอ็มดับเบิลยูยังครองตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์นั่งระดับพรีเมียม ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 41.3%
นายอเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า ความสำเร็จในไตรมาสที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจของลูกค้าชาวไทยทั่วประเทศที่มีต่อแบรนด์ของเรา ซึ่งเป็นผลจากความมุ่งมั่นที่เรามีให้กับตลาดในประเทศไทยมาโดยตลอด ขณะที่ยอดการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ที่โรงงาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ในปี 2564 เพิ่มขึ้น 10.4%
นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยูยังเข้าสู่ยุคใหม่ของเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า EV ด้วยบีเอ็มดับเบิลยู iX และบีเอ็มดับเบิลยู iX3 ที่จะมาถึงประเทศไทยเป็นครั้งแรกในไตรมาสที่ 4 ปีนี้
“เรายังคงมีไฮไลท์ความตื่นเต้นใหม่ ๆ ที่จะมาพร้อมกับข้อเสนอสุดพิเศษที่มากขึ้นช่วงเดือนพฤศจิกายน ในงาน BMW Premium Selection Festival ก่อนที่จะปิดท้ายปีด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นล่าสุดในงาน Motor Expo” นายบารากา กล่าวสรุป
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณายอดจดทะเบียนรถใหม่ป้ายแดง ของกรมการขนส่งทางบก 9 เดือนที่ผ่านมา (รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง) ชุดข้อมูลเดียวกับที่ บีเอ็มดับเบิลยูใช้ จะพบว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ มียอดจดทะเบียน 7,768 คัน
นายโรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า สัญญาณต่างๆ ในไตรมาสสุดท้ายเริ่มดีขึ้น ทั้งการที่รัฐบาลแสดงความชัดเจนถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมถึงยอดจองรถใหม่เพิ่มขึ้น และการที่ดีลเลอร์สั่งรถเข้ามาในสต๊อกอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าไตรมาสที่ 4 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดสำหรับการขายรถเมอร์เซเดส-เบนซ์
“ยอดขาย เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เป็นไปตามเป้าหมาย และทำได้ตามที่สัญญาไว้กับบริษัทแม่ ที่สำคัญคือสถานการณ์ตอนนี้ดีลเลอร์มีกำไร เพราะไม่ต้องอัดแคมเปญแรงๆ เพื่อแข่งขันหรือตัดราคากันเอง ซึ่งเรามั่นใจว่าปี 2564 จะครองแชมป์เซ็กเมนต์รถยนต์พรีเมี่ยมของเมืองไทยได้แน่นอน” นายโฟล์เกอร์ กล่าว
ล่าสุด เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังจัดแคมเปญ Back in Shape ดึงลูกค้าเข้าศูนย์บริการ สร้างรายได้ให้ดีลเลอร์ ด้วยการให้ส่วนลด 20% สำหรับอะไหล่กลุ่มไส้กรอง กลุ่มเบรกและกลุ่มเคมีภัณฑ์ อาทิเช่น น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก พร้อมฟรีน้ำมันเครื่อง MB Oil 1 ลิตร หากลูกค้าเข้ามาเปลี่ยนยาง MB Tires 4 เส้น จะได้รับสิทธิพิเศษฟรีค่าแรงเปลี่ยนยาง
ทั้งนี้ ยังเสนอทางเลือกการจ่ายเงินสำหรับลูกค้าเมื่อมียอดค่าใช้จ่ายผ่านบัตร เมอร์เซเดส การ์ด ตั้งแต่ 20,000 บาท ขึ้นไปสามารถผ่อนชำระ 0% ได้ 6 หรือ 10 เดือน หรือ การนำเสนออะไหล่ที่ครอบคลุมในทุกกลุ่มลูกค้าทั้ง Genuine Parts, REMAN parts หรือ StarParts ตั้งแต่ 15 ตุลาคม 2564 ถึง 15 ธันวาคม 2564 นี้