ค่ายมิตซูบิชิ เดินหน้ารุกตลาดรถยนต์เต็มสูบ โดยก่อนหน้านั้นเพิ่งเปิดโรงงานพ่นสีที่ลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งโรงงานดังกล่าวจะรองรับไลน์ผลิตมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี, ไทรทัน และปาเจโร สปอร์ต ส่วนแนวรุกล่าสุดคือการประกาศว่าในปี 2567 รถยนต์นั่งทุกรุ่นจะถูกปรับจากเครื่องยนต์เป็นระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าหรือ xEV
ปี 2567 ผลิตรถยนต์นั่งที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น
นาย เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เป้าหมายในปี 2567 ที่วางไว้สะท้อนความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เพื่อมุ่งสู่โลกแห่งยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ทั้งนี้รถ xEV ที่จะก้าวไปนั้น มีโอกาสที่จะเป็นทั้งรถ PHEV หรือ BEV ก็ได้
"มิตซูบิชิ เชื่อว่ารถ PHEV เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะสานต่อไปยังตลาดรถ BEV แม้ว่าขณะนี้ตลาดรถ PHEV ในไทยเป็นตลาดที่เล็กแต่เราเชื่อว่าจะช่วยสร้างให้มันใหญ่ขึ้นในอนาคต ส่วนการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อรองรับ xEV นั้นรายละเอียดเบื้องต้น ยังบอกอะไรมากไม่ได้ ทั้งเรื่องการลงทุน รวมถึงรุ่นรถ แต่เราเชื่อว่าPHEV เหมาะกับการใช้งานในเมืองไทย ส่วนรถยนต์ไฟฟ้า 100 % ก็กำลังศึกษา"
ปัจจุบันมิตซูบิชิได้นำรถมินิแวน Mitsubishi Mini Cab MiEV จำนวน 2 คัน มาให้ไปรษณีย์ไทยทดลองวิ่ง เพื่อทดสอบการใช้งาน ระยะการวิ่ง ระยะหยุด การชาร์จไฟ ดูการใช้งานต่างๆว่าจะต้องปรับ หรือแก้ไขสเปคอย่างไร
ส่วนรถกระบะอีวี จะได้เห็นหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับตลาดว่าต้องการแบบไหน ปัจจุบันพฤติกรรมการใช้งานกระบะจะใช้เพื่อขนของ วิ่งระยะไกล ซึ่งเครื่องยนต์ดีเซลได้เปรียบ และเมื่อมองไปที่ทั่วโลกก็ยังคงใช้งานรถกระบะเครื่องยนต์ดีเซลอยู่ อย่างไรก็ตามมิตซูบิชิคงต้องประเมินตลาดอีกทีในอนาคต
การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าปัจจุบัน-นโยบายรัฐ
ปัจจุบันมีผู้เล่นจากจีนเข้ามาในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า มิตซูบิชิมองว่าการแข่งขันในตลาดมีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอด ซึ่งมิตซูบิชิมีแผนธุรกิจออกมารองรับ โดยเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยีในการรองรับความต้องการของลูกค้ามากกว่า และมิตซูบิชิมองว่าการก้าวไปสู่รถ BEV จะไม่โตแบบก้าวกระโดด โดยมองว่าต้องเริ่มจาก PHEV ก่อน ซึ่งก็สอดคล้องกับนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลไทยที่ออกมาขณะนี้
สำหรับแนวทางหรือนโยบายที่รัฐบาลไทยออกมาในขณะนี้ มีส่วนช่วยให้ตลาดใหญ่ขึ้น อย่างไรก็ตามสัดส่วนยังคงเป็นรถยนต์ไฮบริด ประกอบกับการที่รัฐปรับโครงสร้างภาษีก็ทำให้ราคารถกลุ่มนี้ไม่แตกต่างจากเครื่องยนต์ปกติ ตรงจุดนี้มิตซูบิชิมองว่าจะช่วยให้ตลาดขยาย โดยเริ่มจาก PHEV ก่อนหลังจากนั้นค่อยขยับมาเป็น BEV เพราะปัจจุบัน BEV ในตอนนี้ยังถือเป็น second car เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องการเดินทาง
เปิดรถยนต์รุ่นใหม่ในงานมอเตอร์โชว์ 2565
ในปี 2565 มีแผนเปิดตัวมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ ซึ่งถือเป็นรถเอ็มพีวีที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในประเทศไทย โดยการปรับโฉมครั้งนี้มาพร้อมการยกระดับการออกแบบใหม่ทั้งหมด มีการติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง (CVT) เพื่อลดอัตราการบริโภคน้ำมัน
นอกจากนั้นแล้วยังเตรียมเผยโฉมรถยนต์แรลลี่อาร์ตสองรุ่นใหม่ ได้แก่ มิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่อาร์ต ดับเบิลแค็บ และมิตซูบิชิ มิราจ แรลลี่อาร์ต ที่จะมาเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับตำนานของแรลลี่อาร์ต โดยจะได้เห็นรถรุ่นใหม่นี้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43