อีวี ไพรมัส บริษัทขาย “ตงฟง” เล็งนำเข้า EV จีนราคา 3 แสนบาท เปิดตัวในไทย
อีวี ไพรมัส บริษัทที่ได้สิทธิ์นำเข้าและจัดจำหน่าย DFSK หรือ ตงฟง เล็งเสริมทัพ EV รุ่นใหม่นำเข้าจากจีน ทั้ง SERES และแบรนด์น้องใหม่ เป็น EV ขนาดเล็กราคา 3 - 4 แสนบาท เปิดตัวในไทยในปี 2565
SERES เป็น EV ที่ยกระดับความหรูหราขึ้นมา และแบรนด์น้องใหม่ที่เตรียมเปิดตัวในปีนี้จะเป็น มินิ EV ราคาประหยัด นำเข้าจากจีนราคาประมาณ 3-4 แสนบาท
กลับมาลุยตลาดรถยนต์เต็มตัวอีกครั้ง สำหรับ พิทยา ธนาดำรงศักดิ์ ผู้บุกเบิกรถบรรทุกขนาดเล็กจากจีนแบรนด์ “ตงฟง” (DONGFENG) เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดกลับมาเปิดตลาดด้วยเอสยูวีนำเข้าจากอินโดนีเซีย และเตรียมทำตลาดรถยนต์จากจีนเพิ่มอีก 2 แบรนด์ ภายในปี 2565 ภายใต้ บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด
อีวี ไพรมัส วางธุรกิจรถยนต์เป็นแบบมัลติแบรนด์โดยได้สิทธิ์เป็นผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของรถยนต์หลายยี่ห้อ ซึ่งแบรนด์แรกและเป็นแบรนด์หลักคือ DSFK หรือ DONGFENG จากจีน โดยจะไม่ทำตลาดรถบรรทุกขนาดเล็กเหมือนในอดีต แต่จะมุ่งไปที่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลประเภทเอสยูวี ทั้ง DFSK รุ่น GLORY i-Auto และ DFSK GLORY 560 ส่วนปีนี้ยังมีแผนงานใหม่ๆ เพิ่มเติม
นายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ อีวี ไพรมัส เปิดเผยว่า แผนงานในปี 2565 บริษัทเตรียมบุกตลาดด้วยรถยนต์ 3 แบรนด์คือ DFSK, SERES และแบรนด์ใหม่ มินิ EV ราคาประหยัด ส่งผลให้บริษัทมีโปรดักต์ที่หลากหลาย รองรับทุกความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงกระแสรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรง
โดย DFSK จะเป็นเอสยูวี ที่ใช้เครื่องยนต์กินนํ้ามันอย่างเดียว ตัวถังใหญ่อเนกประสงค์มาในราคาย่อมเยา ส่วน SERES เป็น EV ที่ยกระดับความหรูหราขึ้นมา และแบรนด์น้องใหม่ที่เตรียมเปิดตัวในปีนี้จะเป็น มินิ EV ราคาประหยัด นำเข้าจากจีนราคาประมาณ 3-4 แสนบาท
เรามองตัวเองเป็น ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการแบบวันสต็อปเซอร์วิส สำหรับพันธมิตรจากต่างประเทศ เพราะเรามีความเชี่ยวชาญในตลาดเมืองไทย ทั้งช่องทางการจำหน่าย เรื่องของการเงิน และยังหาโรงงานประกอบในประเทศให้กับบริษัทแม่ได้
“ยุคนี้ควรจะทำตลาดรถแบบหลากหลายแบรนด์ดีกว่าเพราะเราสามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุดของแบรนด์นั้นๆ เข้ามาขายได้ พร้อมกับวางช่องทางการขาย และราคาที่สมเหตุสมผล ขณะเดียวกันดีลเลอร์ที่ร่วมทำธุรกิจกับเราต้องมีกำไร เพราะแบรนด์อย่าง DFSK หรือ มินิ EV แบรนด์ใหม่ ไม่ต้องลงทุนสูงมาก และในส่วนของ SERES EV อาจจะต้องลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท”
ในส่วนแบรนด์ SERES จะประเดิมด้วยเอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่น 3 นำเข้าจากจีน ซึ่งแผนงานแรกเตรียมเปิดตัวภายในไตรมาส 2 ปีนี้ แต่เมื่อเห็นมาตรการส่งเสริม EV ของรัฐบาลไทย ทำให้บริษัทแม่เล็งเห็นถึงโอกาสและมีความพร้อมในการประกอบในไทยตามเงื่อนไขของรัฐบาล ตอนนี้เราจึงพยายามรวบรวมข้อมูลและเข้าไปคุยกับกรมสรรพสามิตเพื่อทำ MOU ดังนั้นการเปิดตัวอาจจะล่าช้าออกไปเป็นช่วงไตรมาส 3 ปี 2565
สำหรับ SERES รุ่น 3 มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 35 กิโลวัตต์ชั่วโมง เบื้องต้นถ้าไม่มีการสนับสนุนจากรัฐบาลราคาจะอยู่ประมาณ 1 ล้านบาท สามารถส่งมอบรถได้ปลายปีนี้ทันที
นอกจากนี้ ยังมี SERES รุ่น 5 เอสยูวีสไตล์คูเป้ท้ายลาด ราคาประมาณ 2 ล้านบาท รถยนต์ไฟฟ้าประเภท Extended Range EV ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 54 กิโลวัตต์ชั่วโมง และมีเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ คอยสนับสนุนทำให้สามารถขยายระยะทางวิ่งได้เป็น 1,000 กิโลเมตร (พลังงานไฟฟ้าเต็มแบตเตอรี่และนํ้ามันเต็มถัง) ที่สำคัญรถรุ่นนี้ บริษัทแม่มีแผนขึ้นไลน์ประกอบที่อินโดนิเซีย
ด้านแบรนด์ EV น้องใหม่ ที่เตรียมนำเข้ามาเปิดตลาดภายในปีนี้ จะเป็นมินิอีวีที่ได้รับความนิยมมากในประเทศจีน ซึ่งขายอยู่ในประเทศบ้านเกิด ราคาประมาณ 200,000 บาท ดังนั้นการนำเข้ามาขายในไทย ก็ควรจะราคาประมาณ 300,000 บาท
EV รุ่นนี้ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 16 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งได้ระยะทางการวิ่งกว่า 200 กิโลเมตร มอเตอร์ตัวเดียวให้กำลัง 50 แรงม้า ความเร็วสูงสุดทำได้ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
“เรามองว่าเซกเมนต์อีวีราคาประมาณ 300,000 บาท น่าจะเกิดขึ้นได้ในประเทศไทย แม้ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นแบรนด์อะไร แต่ยืนยันว่าเตรียมเปิดตัวภายในปีนี้แน่นอน” นายพิทยา กล่าวสรุป