ซัพพลายเชนอุตสาหกรรมยานยนต์ยังป่วน ปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนเพื่อการผลิตไม่คลี่คลาย จนไร้รถส่งมอบให้แก่ลูกค้า Honda HR-V บางรุ่นบางสี รอนานถึงต้นปี 2566 เช่นเดียวกับ Mazda CX-3 แบคออร์เดอร์เกิน 4 เดือน ส่วน Nissan Kicks ปรับตำแหน่งสินค้าใหม่ สู้ศึกบี-เอสยูวี ราคาเริ่มต้น 7.59 แสนบาท หวังยอดโตเท่าตัว จากปัจจุบันขายอยู่ 100-200 คันต่อเดือน
เซกเมนต์บี-เอสยูวี ราคาตั้งแต่ 7 แสนบาท ไปจนถึง 1.2 ล้านบาท ได้รับความนิยมต่อเนื่องในช่วง 3-4 ปีหลัง โดยยอดขายอันดับหนึ่งคือ Toyota Corolla Cross ตามด้วย Honda HR-V และมีค่ายจีนสอดแทรกอย่าง MG ZS ส่วนน้องใหม่ Haval Jolion ยังทำยอดขายไม่ได้ตามที่เกรท วอลล์ มอเตอร์ คาดหวัง
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังเผชิญกับ ปัญหาซัพพลายเชน และการขาดแคลนชิ้นส่วนเพื่อการผลิต ขณะที่โรงงานผลิตรถยนต์ไม่สามารถเดินกำลังได้อย่างเต็มศักยภาพ ด้วยข้อจำกัดของทรัพยากร ส่งผลให้มียอดค้างส่งมอบเป็นจำนวนมาก และบี-เอสยูวี ซึ่งเป็นเซกเมนต์ใหญ่ในกลุ่มรถยนต์นั่ง ได้รับผลกระทบเช่นกัน
โดยรถยนต์ที่โดนหางเลขไปเต็มๆ รุ่นหนึ่งคือ Honda HR-V โฉมใหม่โมเดลเชนจ์ที่เปิดตัวปลายปี 2564 และตั้งเป้าขายในปีนี้ถึง 20,000 คัน หวังกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์จาก Toyota Corolla Cross
ส่วนยอดขาย 5 เดือนแรกของปี (ม.ค.-พ.ค.65) ทำได้ 7,458 คัน ตามหลัง Toyota Corolla Cross ที่ขายไป 8,214 คัน ซึ่งฮอนด้า ออโตโมบิล ยอมรับว่ายอดขาย Honda HR-V ควรจะมากกว่านี้ หากไม่ติดปัญหาเรื่องกำลังการผลิต
ด้านดีลเลอร์รายใหญ่ของ ฮอนด้า ออโตโมบิล เปิดเผยว่า ตอนนี้รถยนต์หลายรุ่นไม่สามารถกำหนดเวลาส่งมอบให้แก่ลูกค้าได้อย่างชัดเจน ส่วน Honda HR-V ใครเพิ่งตัดสินใจจองตอนนี้ และเลือกสียอดนิยมอย่าง “ขาวซันไลท์” อาจจะได้รับรถต้นปีหน้า 2566 เป็นอย่างเร็ว
ล่าสุด ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ออกแถลงการณ์ชี้แจงต่อลูกค้า ถึงปัญหาดังกล่าวว่า การส่งมอบรถที่ล่าช้านั้น เกิดจากผลกระทบจากโควิด-19 ทั่วโลกที่มีมาอย่างยาวนาน และยังคงต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนบางรายในต่างประเทศ ไม่สามารถส่งชิ้นส่วนให้แก่บริษัท เพื่อนำมาประกอบรถยนต์ได้ บริษัทจึงไม่สามารถวางแผนการผลิตและการส่งมอบได้อย่างแม่นยำ
ตามแถลงการณ์ดังกล่าว สะท้อนถึงอุปสรรคอย่างชัดเจน โดยส่วนหนึ่งมาจากโรงงานซัพพลายเออร์ที่จีน และมาเลเซีย ที่ไม่สามารถผลิตชิ้นส่วนป้อนให้แก่โรงงานของฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ได้ตามความต้องการ
ปัญหานี้หลายค่ายรถยนต์ต้องเผชิญเช่นกัน ในส่วน บี-เอสยูวีอย่าง Mazda CX-3 กับโรงงานเอเอที จังหวัดระยอง มีข้อจำกัดในการผลิต ทำให้ลูกค้าต้องรอการส่งมอบรถนาน 3-4 เดือน
นายทาดาชิ มิอุระ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนเพื่อการผลิต ยังเป็นอุปสรรคสำคัญทำให้รถยนต์มาสด้าหลายรุ่น ผลิตไม่ทันกับความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่ม CX Series ที่ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจนทั้ง รุ่นประกอบในประเทศ (CX 3,CX 30) และรุ่นที่นำเข้าจากมาเลเซีย (CX 5, CX 8)
ด้าน Nissan Kicks รุ่นใหม่ ปี 2022 ที่ปรับปรุงสมรรถนะให้มอเตอร์ไฟฟ้าแรงขึ้นเป็น 136 แรงม้า เพิ่มความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเป็น 2.06 กิโลวัตต์-ชั่วโมง โดยเลื่อนการเปิดตัวมาในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2565 เพื่อรอให้มีรถพร้อมส่งมอบแก่ลูกค้าทันทีหลังการเปิดตัว
สำหรับ Nissan Kicks รุ่นใหม่ ยังปรับตำแหน่งทางการตลาดลงมา พร้อมทำราคาให้เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น โดยรุ่นเริ่มต้น E ราคา 759,000 บาท รุ่น V ราคา 829,000 บาท รุ่น VL 899,000 บาท และรุ่นย่อยใหม่ AUTECH ราคา 949,000 บาท พร้อมเปิดตัวแอมบาสซาเดอร์ “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก”
นายอิซาโอะ เซคิกุจิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากเปิดตัว Nissan Kicks e-Power ใหม่ คาดว่าจะมียอดจองเข้ามาพอสมควร เพราะก่อนหน้านี้มียอดเข้ามาแล้วประมาณ 2,000 คัน และหวังว่ายอดขายจะเพิ่มมากขึ้นกว่านี้ จากเดิมอยู่ที่ประมาณ 200 คันต่อเดือน
นิสสันนำเสนอราคาขายที่เหมาะสม พร้อมจัดสรรสต๊อก ให้มีเพียงพอสำหรับการเปิดตัวในปีนี้ ขณะเดียวกัน การใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์ ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สร้างความแข็งแกร่ง เพราะแบรนด์ของนิสสันในไทยยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอ บริษัทจึงพยายามปรับภาพตรงนั้น โดยการใช้ “ใบเฟิร์น” กับ Nissan Kicks ที่จะช่วยขยายกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นมากขึ้น
“นอกจากแผนงานเรื่องแบรนด์แอมบาสเดอร์แล้ว กลยุทธ์หลักอื่นๆ ของนิสสันในตอนนี้คือ การปรับโครงสร้างต่างๆภายในองค์กร การปรับปรุงแบรนด์ การไม่ลดราคา การทำแบรนด์ให้ถูกต้อง รวมถึงวิธีการสื่อสารเรื่อง e-Power กับลูกค้า เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายสร้างส่วนแบ่งการตลาดรวมที่ 5%” นายเซคิกุจิ กล่าว