ส.อ.ท.ปรับเป้ายอดผลิตรถยนต์จาก 1.8 ล้านเป็น 1.75 ล้าน

25 ส.ค. 2565 | 13:02 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ส.ค. 2565 | 20:07 น.

กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.ประกาศปรับลดยอดการผลิตรถยนต์ปี 65 จากเดิม 1.8 ล้านคัน เหลือ 1.75 ล้านคัน ลดลง 5 หมื่นคัน แจงปรับลดเฉพาะตลาดส่งออก ส่วนตลาดในประเทศปรับขึ้น หลังปัจจัยสนับสนุนดันยอดขายโต

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประกาศว่า ได้ปรับเป้าผลิตรถยนต์ปี 2565 จาก 1,800,000 คัน เป็น 1,750,000 คันลดละ 50,000 คันโดยปรับเป้าผลิตส่งออกลงจาก 1,000,000 คัน เป็น 900,000 คัน และปรับเป้าผลิตขายในประเทศขึ้นจาก 800,000 คันเป็น 850,000 คัน

 

สำหรับปัจจัยที่ทำให้ต้องปรับลดยอดผลิตเพื่อการส่งออกที่ลดลงเป็นผลมาจาก

  • สงครามยูเครน-รัสเซียที่เกิดขี้นปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ยืดเยื้อนาน ทำให้การขาดแคลน  เซมิคอนดักเตอร์ที่มีมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้วขาดแคลนมากขึ้นเพราะทั้งสองประเทศส่งออกรายใหญ่ก๊าซนีออนที่เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์

 

  • ผลจากสงครามยูเครน-รัสเซีย ทำให้การส่งออกรถยนต์ไปทั้งสองประเทศลดลงกว่าสองหมื่นคัน

 

  • การล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2565 ทำให้ขาดแคลนชิ้นส่วนและเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้นเพราะโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่อยู่ที่เซี่ยงไฮ้

 

  • ประเทศเมียนมาประกาศห้ามนำเข้ารถยนต์เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2565 ทำให้ส่งออกรถยนต์ลดลงกว่าสองพันคัน

 

  • ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ไต้หวัน ตะวันออกกลาง เป็นต้น

 

  • อัตราเงินเฟ้อที่สูงมากและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของประเทศชั้นนำของโลกอาจทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง

ส่วนปัจจัยของการปรับยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจาก 

  • รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการการเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากต่างประเทศสะดวกขึ้น  ทำให้มีนักท่องเที่ยวและนักลงทุนเดินทางเข้าประเทศหลายล้านคน

 

  • การส่งออกยังคงเติบโตจากปีที่แล้วที่มูลค่าส่งออกทำสถิติสูงสุด ทำให้ประชาชนมีงานทำมีรายได้เพิ่มขึ้น

 

  • รัฐบาลประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 ชนิด

 

  • รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจเช่น เราเที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง การลดภาษีเงินได้นิติบุคคลด้วยการเพิ่มค่าใช้จ่ายการประชุม การจัดสัมมนาเป็นต้น

 

  • การผ่อนคลายการล็อกดาวน์เรื่องโควิด-19 ทำให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น ประชาชนมีรายได้มากขึ้น

 

  • มีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)