ชวนคนมีรถตรวจเช็กน้ำมันเครื่อง น้ำมันเครื่องแบบไหน ถึงเวลาเปลี่ยนแล้ว?

13 ธ.ค. 2567 | 06:00 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ธ.ค. 2567 | 06:19 น.

ชวนคนมีรถยนต์ตรวจเช็กน้ำมันเครื่อง น้ำมันเครื่องแบบไหนแสดงว่าถึงเวลาเปลี่ยนแล้ว? เพื่อรักษาสภาพรถยนต์ให้ทำงานเต็มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน พบบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่ออโต้แบคส์กว่า 90 สาขาทั่วไทย

สำหรับเจ้าของรถยนต์ หรือคนใช้รถยนต์ขับขี่เดินทางไปไหนมาไหนเป็นประจำทุกวัน การหมั่นตรวจเช็กสภาพรถยนต์ พร้อมบำรุงรักษารถยนต์อยู่เสมอเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย เพราะรถยนต์ประกอบด้วยกลไก อะไหล่ เครื่องยนต์ที่เมื่อใช้งานบ่อยๆ นานๆ หรือถึงระยะเวลาตามที่กำหนดก็ต้องมีการซ่อมบำรุงเป็นปกติ อย่าง ‘การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง’ สารหล่อลื่นที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาเครื่องยนต์ให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ช่วยระบายความร้อน พร้อมปกป้องชิ้นส่วนต่างๆ ไม่ให้สึกหรอ ใช้งานติดขัด ทั้งนี้มือใหม่ที่เพิ่งมีรถยนต์อาจจะยังไม่ทราบว่า การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องต้องทำตอนไหน มีกฎเกณฑ์อะไรในการเช็กบ้าง แบบไหนที่แสดงถึงเวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแล้ว? บทความนี้มีคำตอบ! ชวนคนมีรถยนต์มาดูวิธีตรวจเช็กน้ำมันเครื่องง่ายๆ ด้วยตนเองกัน

เกณฑ์ในการประเมินสภาพน้ำมันเครื่อง

สำหรับเกณฑ์ในการประเมินสภาพน้ำมันเครื่อง หลักๆ แล้วจะแบ่งออกเป็น 2 วิธี คือการเช็กจากระยะทางการใช้งาน และเช็กจากสีของน้ำมันเครื่อง มาดูรายละเอียดของแต่ละเกณฑ์กัน

1) เช็กจากระยะทางการใช้งาน

เบื้องต้นวิธีเบสิกที่สุด คือควรพิจารณาจากข้อมูลในหนังสือคู่มือรถยนต์แต่ละคัน โดยแต่ละยี่ห้อจะมีการระบุ ‘ลิมิตระยะทางการใช้งานของน้ำมันเครื่อง’ เอาไว้ ให้เราเช็กระยะยางไปพร้อมกับประเภทของน้ำมันเครื่องที่เลือกใช้ เพราะน้ำมันเครื่องนั้นมีทั้งแบบน้ำมันเครื่องธรรมดา น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ และน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ที่จะมีอายุการใช้งานและระยะเวลาที่แตกต่างกันไป อย่างน้ำมันเครื่องสังเคราะห์จะใช้งานได้ในระยะทางอยู่ที่ประมาณ 10,000 กิโลเมตร น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์จะใช้งานได้ในระยะทางประมาณ 5,000-7,000 กิโลเมตร ส่วนน้ำมันเครื่องแบบธรรมดาก็จะมีระยะทางที่น้อยลงไปอีก ทั้งระยะเวลามาตรฐานของน้ำมันเครื่องทุกประเภทก็มักจะมีการระบุไว้ว่า ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 6 เดือนโดยประมาณ ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้งานระยะทางถึงกำหนดก่อนหรือไม่นั่นเอง

2) เช็กจากสีของน้ำมันเครื่อง

นอกจากจะเช็กจากระยะทางการใช้งานควบคู่ไปกับประเภทของน้ำมันเครื่องแล้ว การตรวจเช็กจากสีของน้ำมันเครื่องก็เป็นสิ่งที่ควรโฟกัสเช่นเดียวกัน เพราะน้ำมันเครื่องมีหลักการทำงานเป็นของเหลวที่ไหลเข้าสู่ชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ เพื่อไปหล่อลื่นการทำงานของชิ้นส่วนต่าง ลดการเสียดสี และลดความร้อน และเมื่อน้ำมันเครื่องไหลกลับมายังถังน้ำมันเครื่องอีกครั้งก็อาจนำพาสารหรือสิ่งสกปรกจากเครื่องยนต์ติดกลับมาด้วย! โดยตัวสารและสิ่งสกปรกเหล่านี้ หากดันไปผสมเข้ากับน้ำมันเครื่อง ก็อาจทำให้ ‘น้ำมันเครื่องเกิดการเปลี่ยนสี’ ไป ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกสุขภาพของน้ำมันเครื่องว่าควรใช้งานต่อหรือไม่ หรือควรรีบเปลี่ยนทันที

- น้ำมันเครื่องเป็นสีเหลืองใส หรือออกสีชมพูใส

น้ำมันเครื่องที่นับว่ามีสุขภาพดีมักจะเป็นสีเหลืองใส หรือออกเป็นสีชมพูใส หากน้ำมันเครื่องเป็นสีใด สีหนึ่งตามนี้ก็นับว่ายังไม่ต้องเปลี่ยน ถือว่าอยู่เกณ์ปกติดีนั่นเอง

- น้ำมันเครื่องสีดำ

น้ำมันเครื่องสีดำ ถือเป็นสัญญาณว่าน้ำมันเครื่องหมดอายุการใช้งานแล้ว เพราะน้ำมันเครื่องที่กลายเป็นสีดำนี้ ได้ดูดเอาฝุ่นและสิ่งสกปรกต่างๆ ออกมาจากชิ้นส่วนเครื่องยนต์มาเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่มีประสิทธิภาพเหมาะสมกับการใช้งานอีกต่อไป ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในกรณีที่ใช้งานน้ำมันเครื่องมานาน หรือแม้กระทั้งเพิ่งเปลี่ยนน้ำมันเครื่องมาใหม่ๆ เพราะสาเหตุอาจเกิดจากระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอุดตัน สิ่งสกปรกจึงอาจผสมเข้ามายังน้ำมันเครื่องมากกว่าปกติ

- น้ำมันเครื่องสีแดงหรือชมพูขุ่น

น้ำมันเครื่องที่เปลี่ยนเป็นสีแดงหรือชมพูขุ่น อาจเกิดจากการผสมกันของน้ำมันเครื่องและน้ำมันเกียร์ ซึ่งเป็นสัญญาณว่า น้ำมันเกิดการรั่วซึมมาจากชิ้นส่วนอะไหล่ที่อยู่ในระบบขับเคลื่อนของรถยนต์ หากพบว่าน้ำมันเครื่องเริ่มเปลี่ยนเป็นสีนี้ ก็แนะนำให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ควรนำรถยนต์ไปตรวจเช็กสภาพโดยรวมว่าทำไมน้ำมันถึงรั่วซึมด้วย

- น้ำมันเครื่องขุ่นๆ หรือมีขุยผสม

หากน้ำมันเครื่องของเราเปลี่ยนเป็นสีขุ่นๆ หรือมีเศษขุยผสมอยู่ในน้ำมันเครื่องอยู่เป็นจำนวนมาก อาจมีสาเหตุได้หลายอย่าง เช่น ใช้น้ำมันเครื่องไม่เหมาะสมกับเครื่องยนต์ ฝืนใช้น้ำมันเครื่องที่หมดอายุนานเกินไป รวมถึงการที่น้ำรั่วซึมจากหม้อน้ำหรือน้ำมันอื่นๆ มาผสมปนเปื้อนกับน้ำมันเครื่องจนทำให้เสื่อมสภาพ เปื่อยยุ่ย และกลายเป็นขุยผสมอยู่ในน้ำมันเครื่องนั่นเอง

 

น้ำมันเครื่องเป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้รถของเราขับเคลื่อนไปได้ เป็นสารหล่อลื่นที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาเครื่องยนต์ให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ช่วยระบายความร้อน พร้อมปกป้องชิ้นส่วนต่างๆ ไม่ให้สึกหรอก่อนเวลาอันควร หากเราทนใช้น้ำมันเครื่องเก่า เสื่อมสภาพ ไม่ยอมเปลี่ยนเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ประสิทธิภาพการใช้งานของรถยนต์ก็อาจลดลง ทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดปัญหากับอะไหล่อื่นๆ ของรถยนต์ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือรถดับกะทันหันระหว่างการขับขี่บนถนนก็เป็นได้ ดังนั้นแล้วคนมีรถยนต์อย่าลืมที่จะตรวจเช็กน้ำมันเครื่องอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะตรวจเช็กจากระยะทางการใช้งาน หรือการตรวจเช็กสีของน้ำมันเครื่องตามข้อมูลที่เรานำมาแชร์ได้เลย

ส่วนเจ้าของรถยนต์คไนหนที่กำลังมองหาศูนย์บริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์อย่างละเอียด ทั้งตรวจเช็กสภาพน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือต้องการซื้อน้ำมันเครื่องในราคาพิเศษ ที่ Autobacs - ออโต้แบคส์ ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร มาตรฐานอันดับ 1 จากประเทศญี่ปุ่น เรามีบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และมีน้ำมันเครื่องชั้นนำให้เลือกหลายยี่ห้อ สามารถตรวจเช็กราคาน้ำมันเครื่อง หรือเข้ารับการให้คำปรึกษาและตรวจเช็กสภาพรถครบวงจร ได้แล้ววันนี้ที่ออโต้แบคส์กว่า 90 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศไทย!

 

สอบถามหรือเช็กโปรโมชันราคาน้ำมันเครื่อง Autobacs

AUTOBACS Call Center: 065-504-8000

Line Official : @autobacsthailand

Website: https://www.autobacs.co.th