2 บริษัทผู้ผลิต EV ยักษ์ใหญ่ของโลกตบเท้าลุยธุรกิจในไทย ทั้ง BYD ที่แต่งตั้งดิสทริบิวเตอร์ เรเว่ ออโตโมทีฟ ให้มาช่วยขายก่อนที่บริษัทแม่ บีวายดี ออโต อินดัสทรี จะเปิดโรงงานผลิตในปี 2567 หลังประกาศแผนลงทุนกว่า 17,000 ล้านบาท ซื้อที่ดิน 600 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมระยอง 36 ของ WHA เตรียมตั้งโรงงานผลิต BYD แห่งแรกในอาเซียน ซึ่งตามแผนแจ้งว่าสามารถผลิตได้ทั้ง รถพลังงานไฟฟ้า 100% EV และรถปลั๊ก-อินไฮบริด PHEV
ขณะที่ เรเว่ ออโตโมทีฟ ในฐานะผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (ดิสทริบิวเตอร์) ประกาศลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการทำตลาด การขาย และการบริการหลังการขาย ประเดิมด้วย BYD ATTO 3 รุ่น Extended Range 480 กม. ราคา 1,199,900 บาท (หลังหักส่วนลดรัฐบาล) และเพิ่มรุ่น Standard Range 410 กม. ที่จะเปิดตัวในวันที่ 11 พฤศจิกายน นี้ คาดราคาประมาณ 1 ล้านบาท
โดยทั้ง 2 รุ่นย่อยสามารถส่งมอบภายในปี 2565 ได้ 5,000 คัน และเดือนมกราคม ปี 2566 จะมีล็อตใหม่เข้ามาอีก 3,000 คัน จากเครือข่ายผู้จำหน่ายที่ปัจจุบันมีโชว์รูม-ศูนย์บริการรวม 32 แห่งทั่วประเทศ (ภายในปี 2566 จะขยายเป็น 60-70 แห่ง)
ส่วน Tesla จากสหรัฐอเมริกา ที่จดทะเบียนตั้งบริษัทในไทย คือ บริษัท เทสลา (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 ด้วยทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท โดยแจ้งวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งบริษัทไว้ว่า ใช้ประกอบกิจการขายรถยนต์ไฟฟ้า ระบบเก็บพลังงานแบบติดตั้งและอุปกรณ์ที่ใช้กับระบบเก็บพลังงานแบบติดตั้ง ระบบผลิตพลังงานและอุปกรณ์ที่ใช้กับระบบพลังงาน
ทั้งนี้ จากวัตถุประสงค์จดทะเบียนตั้งบริษัท ชัดเจนว่า Tesla ยังไม่มีแผนตั้งโรงงานหรือขึ้นไลน์ผลิต EV ในไทย สอดคล้องกับข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่า นายใหญ่ “อีลอน มัสก์” มีความสนใจเข้าไปลงทุนที่อินโดนีเซีย ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งฐานการผลิตของ Tesla ในเอเชียนอกเหนือจากจีน (เซียงไฮ้)
นั่นหมายความว่าในระยะแรก Tesla จะทำตลาดในไทยด้วยรูปแบบรถนำเข้าทั้งคัน โดยมีโอกาสที่จะสั่งรถจากจีน เยอรมนี หรือสหรัฐอเมริกา (โรงงานอินโดนีเซียยังไม่สร้าง)
ปัจจุบัน EV แบรนด์ดังนำเข้า Tesla Model Y เข้ามาวิ่งทดสอบในไทยแล้ว และเตรียมขายตั้งแต่ต้นปี 2566 โดยการทำธุรกิจของ Tesla จะไม่แต่งตั้งดีลเลอร์ (คู่ค้าในท้องถิ่น) แต่จะลงทุนเปิดโชว์รูมเอง (มีไม่กี่แห่ง) และเน้นการซื้อ(จอง)ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
เหนืออื่นใด Tesla มีความชัดเจนในการดูแลลูกค้าของตนเองด้วยการขยายสถานีชาร์จ หรือ Tesla Supercharger ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ผ่านความร่วมมือกับ 3 การไฟฟ้าของไทยคือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (EGAT) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) และการไฟฟ้านครหลวง (MEA)
สำหรับ Tesla เลือกเอสยูวีอย่าง Model Y เข้ามาทำตลาดในไทยเป็นรุ่นแรก และมีให้เลือกทั้งรุ่น Standard Range และ Long Range ซึ่ง EV รุ่นนี้ เป็นเอสยูวีระดับเริ่มต้น วางตำแหน่งการตลาดใกล้เคียงกับ Model 3 แต่ตํ่ากว่า Model X และ Model S
ขณะที่ยอดขาย Tesla รวมทั่วโลกในปี 2564 ทำได้ 936,172 คัน เพิ่มขึ้น 87% เมื่อเทียบกับปี 2563 (499,647 คัน) ในจำนวนนี้แบ่ง Tesla Model 3 และ Tesla Model Y รวมกันประมาณ 900,000 คัน
ที่ผ่านมา บรรดาผู้นำเข้ารถยนต์อิสระของไทยขาย Tesla Model Y รุ่น Standard Range ราคาประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นรุ่นมอเตอร์ตัวเดียว ระยะทางวิ่ง 455 กิโลเมตร และได้การตอบรับดีพอสมควร เช่นเดียวกับ Model 3 เนื่องจากเป็นรถที่ราคาไม่สูงมากเมื่อเทียบกับ EV รุ่นอื่นๆ