เชอรี่ ฟื้นธุรกิจในไทยเน้นรถยนต์ไฟฟ้า เปิดตัว Chery Omoda 5 EV ต้นปี 2024

24 เม.ย. 2566 | 05:20 น.
อัปเดตล่าสุด :24 เม.ย. 2566 | 05:37 น.

เชอรี่ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน เปิดเกมรุกตลาดอาเซียน พร้อมวางประเทศไทยให้เป็นฐานการผลิตสำคัญ และต้นปี 2024 เตรียมนำเข้า Chery Omoda 5 EV มาทำตลาดก่อน

รถจีนแห่ขุดทองในไทย หลังจากค่ายใหญ่อย่าง MG ในเครือ SAIC และ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ลงทุนตั้งโรงงานผลิตในเขต EEC รวมถึง BYD ที่ประกาศลงทุนกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งจากนี้ไปจะมีแบรนด์ใหม่ๆ ตามมาอีกเพียบ ทั้ง GAC,ฉางอัน,จีลี่ และ เชอรี่ ที่เตรียมนำเข้า Chery Omoda 5 EV เปิดตัวต้นปี 2024

Chery Omoda 5 EV

ล่าสุด เชอรี่ กรุ๊ป ประกาศแผนงานระดับโลกที่งานเซี่ยงไฮ้ ออโต้โชว์ 2023 ว่าจะปรับตัวจากการเป็นผู้ผลิตรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไป สู่ยุคใหม่ของยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมสร้างความชัดเจนให้กับแบรนด์ในเครือที่จะกระจายบุกตลาดทั่วโลก ทั้ง OMODA&JAECOO (O&J), iCar และแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกคือ EXEED รวมถึงไฮไลต์อย่าง Chery Omoda 5 EV

 

นอกจากนี้ ยังจัดแสดงแพลตฟอร์ม E0X สำหรับการพัฒนารถพลังงานไฟฟ้า EV ซึ่งรองรับทั้งเอสยูวีและปิกอัพ สามารถวางชุดแพกแบตเตอรี่ได้ ตั้งแต่ 60-100 กิโลวัตต์ชั่วโมง มีระยะทางวิ่งไม่น้อยกว่า 700 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตลอดจนแพลตฟอร์มของรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่มีระยะทางการวิ่งรวม (นํ้ามัน และพลังงานไฟฟ้า) ได้มากกว่า 1,000 กิโลเมตร และสามารถวิ่งในโหมด EV ได้ระยะทาง 100 กิโลเมตร

 

เหนืออื่นใดในงานเซี่ยงไฮ้ ออโต้โชว์ 2023 เชอรี่ กรุ๊ป ได้เชิญพันธมิตร คู่ค้า และสื่อมวลชน จากทั่วโลกเกือบ 200 คน มาร่วมเป็นสักขีพยานในการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของบริษัท ที่จะเพิ่มความเข้มแข็งในทุกๆ มิติ ส่วนการทำตลาดในไทยจะเริ่มต้นปี 2567 กับ Chery Omoda 5 EV

 

ทั้งนี้ เชอรี่ เคยเข้ามาทำตลาดในไทยผ่านดิสทริบิวเตอร์ ไทยยานยนตร์ ของ “วิทิต ลีนุตพงษ์” ในปี 2552 กับรถยนต์ 3 รุ่นคือ ซิตี้คาร์ QQ ราคา 4 แสนบาท เอสยูวี Tiggo ราคา 8 แสนบาท และ เอ็มพีวี Cross ราคา 9 แสนบาท

ผ่านไป 14 ปี เชอรี่ กรุ๊ป เตรียมกลับมาลุยตลาดไทยอีกครั้ง ด้วยรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง EV และ ปลั๊ก-อินไฮบริด PHEV ซึ่งในช่วง แรกจะเป็นการนำเข้าทั้งคันมาจากประเทศจีน ก่อนที่จะตั้งโรงงานประกอบรถพวงมาลัยขวาในไทยต่อไป

 

การเปิดตัวธุรกิจเชอรี่ในไทย อย่างเป็นทางการ จะมาพร้อมรถยนต์ 2 รุ่นคือ Chery Omoda 5 EV เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% และ Chery Tiggo 8 Pro เอสยูวีปลั๊ก-อินไฮบริด

 

สำหรับ Chery Omoda 5 EV เป็นเอสยูวีสไตล์ฟาสต์แบ็ก ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้า ให้กำลัง 220 แรงม้า อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม.ทำได้ 7.8 วินาที แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 61 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้ระยะทาง 450 กิโลเมตร (WLTP)

 

Chery Tiggo 8 Pro PHEV ขุมพลังปลั๊ก-อินไฮบริด ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า และสามารถวิ่งในโหมด EV ได้ระยะทางสูงสุด 75 กม.

 

ทั้งนี้ เชอรี่ กรุ๊ป ปิดยอดขายปี 2565 ได้กว่า 1.23 ล้านคัน เติบโต 28.2% เมื่อเทียบกับปี 2564 จำนวนนี้เป็นยอดขายนอกประเทศจีนใน 80 ประเทศทั่วโลกกว่า 4.51 แสนคัน ซึ่งในภูมิภาคอาเซียน เชอรี่มีการทำตลาดที่ประเทศอินโดนีเซียแล้ว และช่วงไตรมาสที่ 3 ปีนี้ จะเริ่มที่มาเลเซีย