ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตแบบก้าวกระโดดในปัจจุบัน ส่งผลให้ธุรกิจเกี่ยวเนื่องได้รับอานิสงค์การเติบโตตามไปด้วย ล่าสุด กลุ่มบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศแผนรุกธุรกิจเกี่ยวกับสถานีอัดประจุไฟฟ้า EV Charging โดยตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้จะมีจุดให้บริการ 65 สถานีครอบคลุมทั่วประเทศ
นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถานีอัดประจุไฟฟ้า EV Charging ของพีทีจีฯ ได้จับมือร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยดำเนินงานภายใต้ชื่อ EleX by EGAT Max ปัจจุบันเปิดให้บริการ 42 จุด
"ธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้าในปัจจุบัน มีการแข่งขันสูง ในส่วนของเราศึกษามาหลายปี เมื่อกฟผ.เข้ามาพูดคุยชักชวนก็เลยตัดสินใจและเกิดเป็น EleX by EGAT Max โดยสาขาแรกที่เปิดอยู่ที่ เขาใหญ่ ปากช่อง ซึ่งในช่วงเริ่มต้นมีรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาใช้บริการน้อยมาก แต่ปัจจุบันเฉลี่ยเข้ามาใช้ 8-9 คันต่อวัน และหากจะให้ถึงจุดคุ้มทุน ก็ต้องมีรถเข้ามาใช้บริการประมาณ 10 คันต่อวัน อย่างไรก็ตามบางจุดก็มีรถเข้ามาใช้ 20 คันต่อวันก็มี"
สำหรับจุดเด่นของสถานีอัดประจุไฟฟ้า EleX by EGAT Max ประกอบไปด้วย แท่นชาร์จไฟเป็นแบบควิกชาร์จ โดยติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบชาร์จเร็ว (DC Fast Charge) ขนาด 125 kW สะดวก รวดเร็ว , คุณภาพการให้บริการ มาตรฐานต่างๆที่ร่วมกับ EGAT ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าจะไม่สร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ของลูกค้า นอกจากนั้นแล้ว ระบบเครือข่ายการให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน EleXA ที่มีความเสถียร ใช้งานง่าย รองรับการชำระเงิน ครบจบที่เดียว ถือเป็นแพลทฟอร์มที่มีความแข็งแกร่ง
"จุดแข็งของเรา คือ ตู้ชาร์จไฟรองรับควิกชาร์จ ขนาด 125 กิโลวัตต์ เป็นตู้ที่มีกำลังสูง ใช้เวลาการชาร์จประมาณ 40 นาที หรือหากเป็นรถยนต์เทสล่า ก็ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ส่วนคุณภาพมาตรฐาน การที่เราจับมือกับ กฟผ.ก็สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า และทางกฟผ.มีการทำแอปพลิเคชันที่อำนวยความสะดวก รวดเร็ว และจุดแข็งอีกประการหนึ่งคือ การที่พีทีจี มีสถานีบริการน้ำมันพีที ที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 2,200 แห่ง ดังนั้นหากตลาดมีความต้องการ เราก็พร้อมติดตั้ง เราเป็นเจ้าของพื้นที่ เวลาเราก้าว เราไปได้เร็วอย่างแน่นอน"
นายรังสรรค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนงานในอนาคต 1-2 ปีข้างหน้าของธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า หากมีความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น บริษัทฯก็พร้อมที่จะขยายธุรกิจ เพราะในเบื้องต้นได้มีการศึกษาในหลากหลายโมเดล โดยยึดหลักว่าจะต้องสะดวก ไม่ยุ่งยากต่อการใช้งานของลูกค้า ขณะเดียวกันอาจจะนำระบบสมาชิก หรือ มอบสิทธิประโยชน์ต่างๆผ่านแอปพลิเคชัน Max me ให้กับลูกค้า
"เราได้ทำการศึกษาหลายโมเดลธุรกิจ เกี่ยวกับสถานีอัดประจุไฟฟ้า ทั้งในกลุ่มรถยนต์นั่ง รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า รถบรรทุก รถขนาดใหญ่ รวมไปถึงตู้สวอปแบตเตอรี่ ซึ่งหากตลาดมีการเติบโต มีความต้องการ เราในฐานะผู้ให้บริการถ้าลูกค้ามีความเชื่อมั่น ก็พร้อมขยายเข้าไป พร้อมลงทุน เราพร้อมทำทุกอย่างให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย"