ฮุนได แผนตั้งโรงงานในไทยไม่คืบ เล็งนำเข้า EV Hyundai Ioniq 5 ตัวแรงตระกูล N

06 มิ.ย. 2566 | 02:29 น.
อัปเดตล่าสุด :06 มิ.ย. 2566 | 02:58 น.

ฮุนได เตรียมนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า EV รุ่น Ioniq 5 และตัวแรงตระกูล N จากเกาหลีมาเปิดตัวในไทยปลายปีนี้ ส่วนแผนตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ในไทยยังไม่คืบหน้า ต้องรอถกกับรัฐบาลชุดใหม่

หลังจาก ฮุนได มอเตอร์ ประเทศเกาหลีใต้เข้ามาทำธุรกิจในไทย ด้วยการตั้งบริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด โดยเริ่มดำเนินงานอย่างเป็นทางการวันที่ 1 เมษายน 2566 ซึ่งไทยถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการขยายธุรกิจในอาเซียน

 

ปัจจุบันยังทำตลาดรถอเนกประสงค์ ซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจากดิสทริบิวเตอร์เดิม ที่ปูทางสร้างรากฐานเอาไว้ ทั้ง Hyundai H1 นำเข้ามาจากอินโดนีเซีย และ Hyundai Staria จากเกาหลี ส่วนโปรดักต์แรกภายใต้หลังคาของ ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศ ไทย คือ Hyundai Stargazer มินิเอ็มพีวี มีให้เลือกทั้งรุ่น 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง โดยนำเข้ามาจากอินโดนีเซีย

จอง เจ คิว ซีอีโอ ของบริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด

ยุคใหม่ของฮุนได ที่ต้องการเข้ามามีบทบาทในอาเซียนมากขึ้น แน่นอนว่าอินโดนีเซียยังเป็นตลาดหลัก และมีโรงงานประกอบรถยนต์ขนาดใหญ่กำลังผลิตระดับ 150,000 คัน/ปี แต่การขยายธุรกิจมาในภูมิภาคนี้ ก็ไม่อาจมองข้ามประเทศไทย ที่มีความพร้อมด้านซัพพลายเชนจ์ และระบบโลจิสติกส์ ภายใต้การสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่องจากภาครัฐ ที่พร้อมให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนทั่วโลก

 

สำหรับบริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด เริ่มเจรจากับภาครัฐถึงเงื่อนไข และแพกเกจสนับสนุนการลงทุนต่างๆ เพื่อตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เพียงแต่รายละเอียดค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งฮุนไดมองถึงการลงทุน และดำเนินธุรกิจในระยะยาว ขณะที่ภาครัฐพยายามเร่งให้ (ทุกค่ายรถ) เกิดการลงทุนอย่างรวดเร็ว ภายใต้กรอบเวลาที่กำหนด ขณะเดียวกัน ประเทศไทยเพิ่งผ่านการเลือกตั้งใหญ่ กำลังอยู่ในช่วงจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ทำให้แผนลงทุนโรงงานผลิตรถยนต์ในไทยของฮุนไดยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร

ในเรื่องของแผนลงทุนระยะยาวยังต้องประสานงานต่อไป แต่ด้วยศักยภาพของ ฮุนได มอเตอร์ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 3 ของโลก (รวม Kia) ที่เข้ามาดูแลธุรกิจในไทยด้วยตนเอง ยังพยายามสร้างการรับรู้ของแบรนด์ และเตรียมแนะนำโปรดักต์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องนับจากนี้ไป

Hyundai Ioniq 5 EV Hyundai Ioniq 5 EV

โดยช่วงปลายปีนี้ ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) ได้จองพื้นที่ออกบูธในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2023 และเตรียมนำรถเข้าอวดโฉมหลายรุ่น แต่รุ่นที่พร้อมขายอย่างเป็นทางการคือ EV รุ่น Hyundai Ioniq 5 และรถสมรรถนะสูงในตระกูล N อีกหนึ่งรุ่น ซึ่งล้วนเป็นการนำเข้าจากเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ยังกลับมาขาย Hyundai Creta บีเอสยูวีจากอินโดนีเซียอีกครั้ง แต่การ กลับมาครั้งนี้จะมาพร้อมการตกแต่งที่ทันสมัยมากขึ้น และทำราคาให้คุ้มค่าน่าใช้กว่าเดิม

 

ส่วนรถยนต์รุ่นอื่นๆ ที่มีโอกาสขายไทยในอนาคต ต้อง จับตา เอสยูวีรุ่น Santa Fe ที่อาจจะต้องรอการเปิดตัวโฉมโมเดลเชนจ์ ในปีหน้าก่อน รวมถึงเอสยูวีขนาดใหญ่ Palisade และ EV รุ่นใหม่ ที่จะตามมาสมทบกับ Hyundai Ioniq 5

 

ด้วยแผนงานต่างๆ จะเห็นว่าฮุนได พยายามสร้างการรับรู้ของแบรนด์ผ่านโปรดักต์ที่ได้การยอมรับในระดับโลก ซึ่งมีทั้งรุ่นเครื่องยนต์ ICE ปกติ รถยนต์ไฟฟ้า EV และกลุ่มรถสมรรถนะสูง Hyundai N Brand

Hyundai Elantra N Hyundai Elantra N

อย่างไรก็ตาม ค่ายรถยนต์อันดับหนึ่งของเกาหลี ยังพยายามสร้างความเชื่อมั่นของแบรนด์ผ่านโชว์รูม-ศูนย์บริการ โดยเฉพาะความร่วมมือกับ ดิสทริบิวเตอร์เดิม (ที่ตอนนี้กลายเป็นดีลเลอร์) สร้างเครือข่ายการขายและบริการหลังการขายที่เข้มแข็ง

นายจอง เจ คิว ซีอีโอ ของบริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทได้เปิดตัว และเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2566 บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาด้านการขายและการบริการหลังการขายควบคู่ไปกับการนำเสนอเทคโนโลยียานยนต์ที่ทันสมัย ผ่านรถยนต์รุ่นต่างๆ ของฮุนไดให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัสอย่างต่อเนื่อง

ฮุนได แผนตั้งโรงงานในไทยไม่คืบ เล็งนำเข้า EV Hyundai Ioniq 5 ตัวแรงตระกูล N

ฮุนได โมบิลิตี้ ยังให้ความสำคัญกับการเดินหน้าขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย ล่าสุดร่วมมือกับ บริษัท โซจิทซ์ ออโตโมทีฟ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทในกลุ่มโซจิทซ์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เปิดโชว์รูมแห่งใหม่ ฮุนได ปทุมวัน บนถนนพระราม 1

 

ปัจจุบัน ฮุนไดมีโชว์รูม-ศูนย์บริการรวม 20 แห่งทั่วประเทศ ในจำนวนนี้เป็นของกลุ่มโซจิทซ์ 3 แห่ง ที่ บางปู, รามอินทรา กม.4 และล่าสุด โชว์รูม ปทุมวัน (พระราม 1)