ปอร์เช่ เอจี เปิดตัว Porsche Charging Lounge โมเดลธุรกิจที่ลงทุนเอง หวังรองรับจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจุดเด่นของสถานีชาร์จแห่งนี้ อยู่ที่ความสะดวกสบาย ด้วยพื้นที่เลานจ์ และการชาร์จพลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง ระดับ 300 กิโลวัตต์ และไฟฟ้าที่ใช้ในสถานีส่วนหนึ่งมาจากระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคา
สำหรับ Porsche Charging Lounge สถานีชาร์จนำร่อง เปิดแล้วบนถนนมอเตอร์เวย์ในนาเฮทัล ทางตะวันตกของแฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งเป็นไปตามแผนงานของปอร์เช่ที่จะตั้งสถานีชาร์จไฟกำลังสูงของตนเองตามเส้นทางที่สำคัญในยุโรป พร้อมประสบการณ์การชาร์จไฟระดับพรีเมียม
โอลิเวอร์ บลูม ประธานกรรมการบริหาร ปอร์เช่ เอจี เปิดเผยว่า ปอร์เช่ กำลังมุ่งสู่เป้าหมายขาย EV ในสัดส่วน 80% ภายในปี 2030
“เราตั้งเป้าสำหรับรองรับการเติบโตที่สูงขึ้นด้วยเครือข่ายสถานีชาร์จไฟประสิทธิภาพสูง และการเริ่มต้นของ Porsche Charging Lounges และความลํ้าสมัยของเครือข่าย IONITY จะเข้ามาส่งเสริมสนับสนุนความยั่งยืนอย่างไรข้อจำกัด”
Porsche Charging Lounge มีระบบทำความร้อนและปรับอากาศด้วยปั๊มความร้อนซึ่งทำงานโดยไม่ใช้เชื้อเพลิง ไฟฟ้าส่วนหนึ่งมาจากระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคา การจัดการอาคารแบบดิจิทัลช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เช่น การหรี่แสงอัตโนมัติเมื่อไม่มีผู้มาเยือน
ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยในบริเวณเลานจ์ ตลอดจนเครื่องดื่มและของว่าง ขั้นตอนการชำระเงินสามารถทำได้หลายช่องทางไม่ว่าจะเป็นบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต รวมถึง Apple Pay หรือ Google Pay พร้อมเครือข่ายอินเตอร์เน็ต WiFi ภายใต้ค่าบริการ 33 เซนต์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง (ประมาณ 13 บาท)
ขณะเดียวกัน ยังมีพื้นที่สำหรับ ออกกำลังกาย พร้อมด้วยอุปกรณ์กระจกอัจฉริยะ (smart mirror) ที่เป็นการแสดงผลแบบอินเตอร์แอคทีฟ เพื่อให้คนขับรู้สึกกระปรี้กระเปร่า พร้อมสำหรับการเดินทางต่อไป
นอกจาก Porsche Charging Lounge แล้ว ปอร์เช่ยังขยายโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ Porsche Destination Charging ที่มีมาก กว่า 5,000 จุดใน 86 ประเทศ โดยในสิ้นปี 2025 จะขยายเป็น 7,500 แห่ง และที่ชาร์จกำลังไฟ 22 กิโลวัตต์ จะถูกนำมาใช้แทนที่ 11 กิโลวัตต์เดิม