สภาพแวดล้อมทางการตลาดรถยนต์ไทยไม่เหมือนเดิม หลังการเข้ามาถล่มตลาด EV จีน พร้อมนโยบายรัฐบาลที่เปิดประตูใหญ่ต้อนรับแบบ VIP โดยหลังสิ้นปีนี้ จะมีรถยนต์จีนเข้ามาดำเนินธุรกิจในไทยมากกว่า 10 แบรนด์
สำหรับยอดจดทะเบียน EV ปี 2566 มีจำนวน 76,366 คัน และปีนี้เดิมคาดว่ายอดจะพุ่งไปถึง 1.2-1.3 แสนคัน ทว่าผ่านมาครึ่งปี 2567 สัญญาณทางเศรษฐกิจต่างๆ เริ่มชัดเจน บรรดาค่ายรถยนต์ต้องปรับเป้าขายกันใหม่ โดยคาดว่า EV จะทำได้ประมาณ 1 แสนคัน จากตลาดรวม(รถยนต์ทุกยี่ห้อ) ที่อาจจะลดลงเหลือ 7 แสนคัน
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรวมปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์กันไว้ 8 แสนคัน อาจจะต้องปรับลดลงมาไม่เกิน 7 แสนคัน
“ยอดขายรถยนต์รวม 4 เดือนแรกชะลอตัว โดยเซกเมนต์ที่ลดลงมาก ได้แก่ ปิกอัพ พีพีวี และ อีโคคาร์ ส่วนตลาดรถยนต์ไฟฟ้า EV ยังมีการเติบโต และคาดว่าปีนี้จะมียอดขายรวมประมาณ 1 แสนคัน” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวสรุป
สำหรับ MG4 Electric เริ่มประกอบในไทย ที่โรงงาน SAIC-CP จ.ชลบุรี ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา พร้อมปรับสเปก เปลี่ยนฟังก์ชันเล็กน้อย เช่น แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในรุ่น Standard Range ลดจาก 51 kWh เหลือ 49 kWh ระยะทางวิ่ง 423 กม.ต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง ราคาขาย 709,900 บาท
ขณะที่ค่ายอื่นๆ เริ่มประกอบ EV แล้วเช่นกัน ทั้ง เนต้า และ เกรท วอลล์ มอเตอร์ โดย NETA V II (ไมเนอร์เชนจ์) ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ 36.1 kWh ระยะทางวิ่ง 382 กม./ชาร์จ แบ่งการขายเป็น 2 รุ่นย่อยคือ LITE ราคา 549,000 บาท และ SMART 569,000 บาท
NETA V II ประกอบที่ บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี ในเขตปลอดอากร “พระนครฟรีโซน” นิคมอุตสาหกรรมบางชัน กรุงเทพมหานคร วางกำลังผลิตไว้ 30,000 คันต่อปี
ด้านเกรท วอลล์ มอเตอร์ กับ ORA Good Cat รุ่นประกอบในประเทศ เปลี่ยนเป็นแบตเตอรี่ LFP ของ SVOLT ทั้งหมด ด้วยความจุ 57.7 kWh ระยะทางวิ่ง 480 กม./ชาร์จ พร้อมขยับราคาขายลดลงมา โดยรุ่น Pro เหลือ 799,000 บาท Ultra 899,000 บาท และ Good Cat GT ราคา 1,099,000 บาท ระยะทางวิ่ง 460 กม./ชาร์จ
ส่วนพี่ใหญ่ บีวายดี พร้อมเปิดตัว BYD Dolphin รุ่นประกอบที่โรงงานจังหวัดระยอง ในเดือนกรกฎาคม นี้ ล่าสุดเปิด RUN OUT Campaign ให้รุ่นนำเข้า ด้วยการลดราคา 1.4 และ 1.6 แสนบาท
โดยรุ่น Standard Range ราคา 559,900 บาท (เดิมราคา 699,999 บาท) และ Extended Range ราคา 699,900 บาท (เดิมราคา 859,999 บาท)
ทั้งนี้ จากการลดราคาครั้งใหญ่เพื่อเคลียร์สต๊อกของบีวายดี นอกจากจะสร้างผลกระทบด้านความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวไทยต่อ EV จีนและแบรนด์ BYD แล้ว บรรดาคู่แข่งยังปั่นป่วนกับการทุบราคาครั้งนี้
แม้หลายค่ายรถยืนยันว่า จะไม่กระโดดลงไปเล่นสงครามราคา แต่เมื่อลงทุนขึ้นไลน์ประกอบ EV ในไทยแล้ว จำเป็นต้องวางแผนการขายให้สอดคล้องกับโรงงาน เพราะมีต้นทุนชัดเจนกว่าการนำเข้ามาในช่วงแรก ขณะเดียวกันยังต้องผลิตให้ได้จำนวนตามเงื่อนไขของโครงการ EV 3.0 (นำเข้าหนึ่งคันผลิตคืนหนึ่งคัน) ที่เซ็น MOU ไว้กับภาครัฐ
ดังนั้น เพื่อให้ธุรกิจดำเนินอย่างต่อเนื่อง สมดุลทั้งการผลิตและขาย รวมถึงหล่อเลี้ยงดีลเลอร์ให้อยู่รอด คาดว่าเร็วๆ นี้ หลายค่ายรถยนต์จะต้องส่งโปรโมชันสนับสนุนการขาย ออกมาแย่งชิงลูกค้าเช่นกัน
นอกจากค่ายเดิมที่กำลังแข่งขันอยู่ในปัจจุบันแล้ว ครึ่งปีหลังยังมีการเปิดตัว EV จากแบรนด์ใหม่ๆ เช่น OMODA&JAECOO ในเครือเชอรี่ รวมถึง XPENG และ ZEEKR อีกด้วย