GAC เช่าโรงงานไทยรุ่งทำ EV เสริมทัพเอสยูวีรุ่นใหม่ AION V

บริษัท ไอออน ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ GAC AION เดินหน้าสร้างฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV ในไทย โดยทำสัญญาเช่าพื้นที่ของโรงงานไทยรุ่งเดิม ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ อ.ปลวงแดง จ.ระยอง ประเดิมประกอบ AION Y Plus ทั้งยังทำเซอร์ไพรส์ด้วยการเผยโฉม AION V เจเนอเรชันที่ 2 ซึ่งรถรุ่นนี้เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่จีน ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 ส่วนประเทศไทยคาดว่าจะทำตลาดช่วงปลายปีนี้

สำหรับ AION V เจเนอเรชันที่ 2 เป็นคอมแพกต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า มิติตัวถังยาว 4,605 มม. กว้าง1,854 มม. สูง 1,660 มม.ระยะฐานล้อ 2,775 มม. ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้ระยะกว่า 750 กม.

นาย หม่า ไห่หยาง ผู้จัดการทั่วไป GAC AION ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า รถในรุ่นใหม่ถูกผลิตขึ้นตามหลักการ 8 จุดเด่นหลัก ได้แก่ ดีไซน์ที่โดดเด่น, พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง, เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว, ระบบขับขี่อัจฉริยะระดับโลก, เทคโนโลยี AI อัจฉริยะ, มีระยะทางวิ่งไกลและทนทานต่อสภาพอากาศ, เทคโนโลยีชาร์จเร็วอัจฉริยะ, แบตเตอรี่มีความปลอดภัยสูง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก

“เรามีความยินดีที่จะแนะนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด AION V เจเนอเรชันที่ 2 มาพร้อมเทคโนโลยี และมีความปลอดภัยสูง โดยการเผยโฉมในครั้งนี้ เกิดขึ้นพร้อมกันกับการเผยโฉมที่ประเทศจีน”

การอวดโฉมรถรุ่นใหม่ของ GAC AION ในวันเปิดตัวโรงงานในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการส่งสัญญาณให้เห็นถึงความสำคัญของตลาดประเทศไทย โดยโรงงานแห่งนี้ถือเป็นแห่งแรกนอกประเทศจีน ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 85,000 ตารางเมตร เบื้องต้นลงทุนในเฟสแรก 2,300 ล้านบาท กำลังการผลิต 2 หมื่นคัน และในเฟสสองอยู่ที่ 5 หมื่นคัน และรถรุ่นแรกที่ผลิตคือ AION Y Plus

นาย หม่า ไห่หยาง กล่าวว่า โรงงาน GAC AION ในไทย จะกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้การพัฒนาขึ้นในประเทศไทย ผลักดันให้เกิดการจ้างงาน สร้างบุคลากรด้านเทคโนโลยีชั้นสูงสำหรับประเทศไทย และช่วยให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจของประเทศไทยอีกทางหนึ่ง

นาย เจิง ชิ่งหง ประธานบริษัท GAC กรุ๊ป เปิดเผยว่า การเปิดตัวโรงงาน GAC AION ในไทยเป็นกลยุทธ์ของบริษัทฯเพื่อขยายตลาดที่เน้นสร้างแบรนด์ในระดับสากล อีกทั้งยังได้สร้างการผลิตและผลักดันให้เกิดการจำหน่าย รวมถึงกระจายความรู้ทางด้านเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ไปสู่ระดับท้องถิ่น

“เราได้นำเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยเข้ามาในไทย พร้อมกับวางแผนสายงานอย่างครบวงจรทั้งหมด ทั้งระบบนิเวศพลังงาน วางรากฐานการฝึกอบรมพนักงาน และสร้างระบบอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ระดับโลก เพื่อช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” นาย เจิง ชิ่งหง กล่าว