ค่าย EV เบอร์หนึ่งของจีน BYD เตรียมเพิ่มทางเลือกโปรดักต์ใหม่ให้มีความหลากหลาย ทั้งแนวราบและแนวลึก ซึ่งจากนี้ไปจะได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊ก-อินไฮบริดมากขึ้น ผ่านแบรนด์ BYD และ Denza
นอกจากการขึ้นไลน์ประกอบ BYD Dolphin ที่โรงงาน จ.ระยอง ในเดือนสิงหาคม นี้ บริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (โรงงานผลิตที่ บริษัทแม่จากจีนถือหุ้น 100%) เตรียมประกอบ BYD Sealion 6 DM-i เอสยูวีปลั๊ก-อินไฮบริด อีกหนึ่งรุ่น จากนั้นปลายปีนี้ เตรียมเปิดตัวแบรนด์ Denza โดยนำเข้ารถตู้ EV Denza D9 และเอสยูวี ปลั๊ก-อินไฮบริด Denza N8 มาทำตลาด
ล่าสุด เพื่อสร้างการรับรู้ในเทคโนโลยีปลั๊ก-อินไฮบริด เรเว่ ออโตโมทีฟ ยังเชิญผู้สื่อข่าวไทย ไปลองขับ BYD Sealion 6 DM-i ถึงโรงงานผลิตที่เมืองซีอาน สาธารณรัฐประชาชนจีน (เปิดตัวในไทย 8 สิงหาคม 2567)
สำหรับเทคโนโลยีปลั๊ก-อินไฮบริด หรือ PHEV บีวายดี มียอดขายในรถกลุ่มนี้มากกว่า 3.6 ล้านคัน โดยใช้เวลาในการวิจัยและพัฒนามากว่า 16 ปี ซึ่งเส้นทางในการพัฒนาจาก DM 1.0 (ผู้บุกเบิก) การออกแบบสถาปัตยกรรมระบบไฮบริดมอเตอร์คู่ มีรูปแบบการขับเคลื่อนแบบไฮบริดอนุกรม และไฮบริดขนานผสมผสานกัน
จากนั้น DM 2.0 (ผู้นำ) สถาปัตยกรรมระบบไฮบริด ที่ใช้ระบบส่งกำลัง DCT มีรูปแบบการขับเคลื่อนแบบไฮบริดขนาน โดยยุคนี้ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ใช้เวลา 5.9 วินาที
DM 3.0 (ผู้เชียวชาญ) ระบบส่งกำลัง DCT รูปแบบการขับเคลื่อนแบบไฮบริดขนาน และอนุกรม อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 4.3 วินาที
DM 4.0 (ผู้พัฒนานวัตกรรม) มอเตอร์คู่ รูปแบบขับเคลื่อนแบบไฮบริดอนุกรม และไฮบริดขนาน ในยุคนี้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 3.8 ลิตรต่อ 100 กม.
DM 5.0 (ผู้ต่อยอดนวัตกรรม) มอเตอร์คู่ ที่มีรูปแบบขับเคลื่อนแบบไฮบริดอนุกรม และไฮบริดขนานผสานกัน อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 2.9 ลิตรต่อ 100 กม. เมื่อเติมน้ำมันเต็มถัง และพลังงานแบตเตอรีเต็ม วิ่งได้ระยะ 2,100 กิโลเมตร
ปัจจุบันเทคโนโลยี DM-i จะขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก โดยการใช้สถาปัตยกรรมปลั๊ก-อินไฮบริด ที่มีระบบส่งกำลังด้วยมอเตอร์เพื่อขับเคลื่อน เครื่องยนต์ที่ใช้ปั่นไฟ พร้อม BYD Blade Bettery ขนาดใหญ่
ส่วนการทำตลาดในไทยเดือนสิงหาคม นี้ กับรุ่น BYD Sealion 6 DM-i เอสยูวีขับเคลื่อน 2 ล้อ เทคโนโลยี DM 4.0 ปลั๊ก-อินไฮบริดเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลัง 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 122 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว กำลัง 197 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 8.3 วินาที
ด้านแบตเตอรีความจุ 18.3 kWh สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน ได้ระยะทาง 92 กม. (NEDC) ส่วนกรณีที่วิ่งทั้งน้ำมันแบบเต็มถัง และไฟฟ้าชาร์จเต็ม จะสามารถวิ่งได้ระยะทางรวม 1,092 กม.
นายเบนสัน เค่อ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีวายดี ไทยแลนด์ จํากัด กล่าวว่า รถรุ่นนี้เปิดตัวในตลาดจีนมาแล้ว 3 ปี มียอดขายสะสมทะลุ 1 ล้านคัน ส่วนการรุกตลาดในประเทศไทยของ BYD Sealion 6 DM-i จะอยู่ในเซกเมนต์ ซี-เอสยูวี
ในอดีตรถปลั๊ก-อินไฮบริดที่มีอยู่ในตลาด จะมีราคาสูง ทำให้ไม่ได้รับความนิยม สำหรับการมารุกตลาดในครั้งนี้ของ BYD แม้จะเป็นผู้เล่นรายใหม่ แต่เทคโนโลยีรวมไปถึงความประหยัดคุ้มค่านั้นแข่งขันได้อย่างแน่นอน ส่วนการตั้งราคาก็จะสมเหตุสมผล เป็นรถที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน
“เราเชื่อว่ารถรุ่นใหม่นี้จะขายดี และเป็นการปลุกตลาดปลั๊ก-อินไฮบริด โดยปัจจุบันสัดส่วนการใช้รถของไทย จากสันดาป ICE จะเริ่มลดลงและสัดส่วนของรถไฮบริด รถปลั๊ก-อินไฮบริด และ EV จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะเป็นการเดินหน้าสู่นโยบายสร้างห่วงโซ่วงจรรถยนต์พลังงานใหม่ในไทย” นายเบนสัน เค่อ กล่าวสรุป