BYD ส่ง SEALION 6 ประกอบไทย ทุบตลาดเอสยูวีไฮบริด-ขยายโชว์รูม 200 แห่ง

14 ส.ค. 2567 | 04:35 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ส.ค. 2567 | 04:43 น.

บีวายดี ยอดขายโตสวนทางตลาดรวมเปิดตัว BYD SEALION 6 เอสยูวีปลั๊ก-อินไฮบริดประกอบไทย ราคา 939,900 บาท กดดันคู่แข่ง Honda CR-V Haval H6 ต้องอัดโปรโมชันสู้ ด้าน เรเว่ ออโตโมทีฟ หวังรถปลั๊ก-อินไฮบริด มีสัดส่วน 10%จากยอดขายทั้งหมด

ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยยังหดตัวรุนแรง ด้วยยอดขาย ครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย. 67) 3.08 แสนคัน ลดลง 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทว่าในกลุ่ม EV ที่นำโดยบีวายดี ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยตัวเลขจากกรมการขนส่งทางบกระบุว่า ตั้งแต่ ม.ค.-ก.ค. 2567 BYD มียอดจดทะเบียน 17,337 คัน แบ่งออกเป็น BYD ATTO 3 จำนวน 4,640 คัน BYD DOLPHIN 8,227 คัน BYD SEAL 4,427 คัน และ E6 จำนวน 43 คัน

 

ล่าสุดเปิดตัว BYD SEALION 6 เอสยูวีปลั๊ก-อิน ไฮบริด ราคา 939,900 บาท โดยรถรุ่นนี้ประกอบที่โรงงาน บีวายดี จ.ระยอง และจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้

BYD SEALION 6 เอสยูวีปลั๊ก-อินไฮบริดประกอบไทย BYD SEALION 6 เอสยูวีปลั๊ก-อินไฮบริดประกอบไทย

BYD SEALION 6 ประกอบไทย ใช้ระบบขับเคลื่อนปลั๊ก-อินไฮบริด ที่บีวายดี เรียกเทคโนโลยีนี้ว่า DM-i Super Hybrid เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 218 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร  อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 8.5 วินาที

 

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 18.3 kWh วิ่งในโหมด EV ได้ระยะทาง 95 กม./ชาร์จ รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ AC 6.6 kW และกระแสตรง DC 18 kW

 

สำหรับ BYD SEALION 6 DM-i Super Hybrid เป็นคอมแพกต์เอสยูวี 5 ที่นั่ง ระดับเดียวกับ Honda CR-V และ Haval H6 ซึ่งการเปิดตัวด้วยราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท ย่อมส่งผลกระทบกับการทำตลาดของคู่แข่งแน่นอน

นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ผู้จัดจําหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BYD อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ เปิดเผยว่า BYD SEALION 6 จะถูกผลิตจากโรงงานในไทยและพร้อมจะเปิดให้จองสิทธิได้ตั้งแต่วันนี้ ที่โชว์รูมทั่วประเทศ

BYD ส่ง SEALION 6 ประกอบไทย ทุบตลาดเอสยูวีไฮบริด-ขยายโชว์รูม 200 แห่ง

สำหรับรถรุ่นใหม่นี้ BYD ยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายการขายอย่างชัดเจน เนื่องจากต้องรอดูสภาพตลาด ขณะที่สัดส่วนการขายของ BYD ในกลุ่ม EV มียอดขาย 90% ส่วน PHEV หรือปลั๊ก-อิน ไฮบริด คาดว่าจะอยู่ที่ 10% (ตอนต้นปี BYD วางเป้าหมายการขายปี 2567 ไว้ที่ 5 หมื่นคัน)

 

แหล่งข่าวจาก เรเว่ ออโตโมทีฟ กล่าวเสริมว่า บริษัทฯแม่ช่วยเยอะมากทั้งด้านโปรดักส์ สินค้าใหม่ รวมไปถึงโรงงานที่เกิดขึ้นไวมาก ซึ่งเรเว่ ก็อยากจะทำตลาดให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ภายในสิ้นปีนี้ ส่วนภาพรวมตลาดที่ชะลอตัวในตอนนี้ ในส่วนของเรเว่ โชคดีที่มีลีสซิ่งรองรับ โดยข้อมูลการปฏิเสธสินเชื่อหรือการรีเจคตามปกติจะอยู่ที่ 5% แต่ในช่วงที่ผ่านมาเพิ่มเป็น 10%

 

“เราพยายามจะเปิดรถรุ่นใหม่ต่อเนื่อง เพราะยังขาดรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องรอดูอีกครั้ง ส่วนภาพรวมตลาดนั้นหากไฟแนนซ์ยังคุมเข้มอยู่ก็จะกระทบกับตลาดและทำให้ตลาดยังคงหดตัว แต่หากภาครัฐมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือภาคเกษตร ท่องเที่ยว ถ้าทุกอย่างดีขึ้นก็จะทำให้รายได้ต่อหัวของประชากรเพิ่มขึ้น ตรงนี้ก็จะไปช่วยอีกทาง”

 

สำหรับแผนงานของเรเว่ นอกจากเปิดรุ่นใหม่แล้ว ในส่วนของเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการที่ปัจจุบันมี 115 แห่ง ภายในสิ้นปีคาดว่าจะเพิ่มเป็น 200 แห่งทั่วประเทศ