บริษัท เอ็มจีซี มารีน แอนด์ ชาร์เตอร์ (เอเชีย) จำกัด ในเครือ MGC-ASIA เปิดบริการรูปแบบใหม่ “เช่าเหมาลำเรือ” ชวนลูกค้าเปิดประสบการณ์ทางน้ำ กับเรือแบรนด์หรู ทั้ง อะซิมุท จากอิตาลี และ คริส-คราฟท์ จากสหรัฐอเมริกา
นายฉัตรชัย แก้วผ่องศรี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็มจีซี มารีน แอนด์ ชาร์เตอร์ (เอเชีย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ นำเสนอบริการเช่าเหมาลำเรือ พร้อมบริการระดับลักชัวรี ภายใต้แบรนด์เรือยอชท์ อะซิมุท และเรือสันทนาการ คริส-คราฟท์ ที่โดดเด่นด้วยสมรรถนะ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
สำหรับบริการของ เอ็มจีซี มารีน แอนด์ ชาร์เตอร์ (เอเชีย) เช่าเหมาลำ เรือยอชท์ อะซิมุท และเรือสันทนาการ คริส-คราฟท์ ออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์พักผ่อนที่ลูกค้าสามารถปรับแต่งโปรแกรมการเดินทางได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแบบส่วนตัว ครอบครัว กลุ่มเพื่อน งานเลี้ยงบริษัท รวมไปถึงการจัดทริปให้กับลูกค้าองค์กร ภายใต้มาตรฐานการดูแลความปลอดภัยสูงสุด โดยทีมงานมืออาชีพ
นอกจากนี้ ยังขยายบริการไปสู่บริษัทนำเที่ยว และโรงแรมที่ต้องการยกระดับบริการ ด้วยการซื้อเรือยอชท์หรือเรือสันทนาการ เพื่อนำไปให้บริการชาร์เตอร์กับลูกค้าของตนเอง โดย เอ็มจีซี มารีนฯ พร้อมให้คำปรึกษา ตั้งแต่การเลือกซื้อเรือที่เหมาะสม วางระบบการเช่าเหมาลำเรือ ไปจนถึงการจัดทำไฟแนนซ์
“เรามีเรือยอชท์ อะซิมุท รุ่นยอดนิยม อาทิ ฟลายบริด์จ (Flybridge), มาเจลลาโน (Magellano) และ เดอะนิวเอสเซเว่น (The New S7) ลูกค้าสามารถรับบริการได้ที่ โอเชียน มารีน่า ยอชท์ คลับ พัทยา และ โบ๊ต ลากูน ภูเก็ต ส่วนคริส-คราฟท์ แบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย คือ Launch 27 และ Launch GT รวมถึง Calypso Series และ Catalina Series โดยมีโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการครบวงจร ภายในโครงการ ริเวอร์เดล มารีน่า จังหวัดปทุมธานี” นายฉัตรชัย กล่าวสรุป
ทั้งนี้ เอ็มจีซี มารีน แอนด์ ชาร์เตอร์ (เอเชีย) เป็นธุรกิจในเครือ บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC-ASIA ที่เพิ่งประกาศทำตลาดรถ EV จีนอีก 2 แบรนด์ใหม่ คือ XPENG ในฐานะดิสทริบิวเตอร์ และ ZEEKR ในฐานะดีลเลอร์ พร้อมเปิดโชว์รูมบนถนนศรีนครินทร์ วิภาวดีรังสิต และรามคำแหง ภายในไตรมาส 3 ปีนี้
ขณะที่ผลการดำเนินงานของ MGC-ASIA ไตรมาสแรกปี 2567 ทำรายได้รวม 4,523 ล้านบาท มีผลกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ที่ 351 ล้านบาท ลดลง 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้ในกลุ่มธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ และการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจ