ถอดรหัส 'ออมทอง' โกงอย่างไร? ความเนียน ที่ไม่ต่างจาก 'แชร์ลูกโซ่'

25 ธ.ค. 2565 | 02:37 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ธ.ค. 2565 | 09:41 น.

เกาะกระแสคดีดัง เมื่อบ้าน 'ออมทอง' ร้านทอง เฟื่อง โกลด์ ดัง แตก! ปิดร้านหนี หลังโกงเงินเหยื่อสูญรวม 700 ล้าน ด้านกูรูการลงทุน ให้ความรู้ กลโกงของระบบออมทอง ความเนียนที่ไม่ต่างจาก 'แชร์ลูกโซ่' ย้ำความรู้เรื่องเงิน คือ สิ่งสำคัญ

25 ธ.ค.2565 - ยังคงเป็นปัญหาระดับชาติ กับข่าวต้มตุ๋น ถูกหลอกลงทุน เช่นเดียวกับคดีล่าสุด ซึ่งมีกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมาก แห่เข้าแจ้งความ ระบุ  ถูกร้านทองเฟื่อง โกลด์ ทอง จ.สระบุรี หลอกให้ร่วมลงทุนและเป็นตัวแทนหาผู้มาร่วมลงทุนออมทองผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนปิดร้านเชิดเงินหลบหนีไป กว่า 700 ล้านบาท

 

จึงกลายเป็นข้อสงสัยของคนทั่วไป ว่า 'ระบบออมทอง' คืออะไร แล้ว การลงทุนที่ว่า ใช้รูปแบบอย่างไร ถึงมีคนกล้าลงทุนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ออมทอง มีความเหมือนหรือ ต่างกับ 'แชร์ลูกโซ่' อย่างไร 

ล่าสุด นายปุณยวีร์ จันทรขจร หรือ “โค้ชเป๊ก” วิทยากรด้านการลงทุนชื่อดัง ได้ถอดรหัส การโกงของระบบออมทอง โดยชี้ให้เห็นถึงความเนียน 3 อย่าง ซึ่งมีความคล้ายกับ 'แชร์ลูกโซ่' เตือน การลงทุนโดยให้ผลตอบแทนสูงเกินจริง ไม่มีอยู่จริง และ ความรู้ทางเงิน ถือ เป็นเรื่องสำคัญ ดังใจความต่อไปนี้ ...

ถอดรหัส \'ออมทอง\' โกงอย่างไร? ความเนียน ที่ไม่ต่างจาก \'แชร์ลูกโซ่\'

ระบบออมทอง มัน "โกง" กันยังไง 
วันหยุดวันนี้มาเล่าให้ฟังสั้นๆครับ 

 

หลักการเหมือนเเชร์ลูกโซ่ข้อนึง
" เน้นหาคนเพิ่มมากกว่าขายของ "

 

โดยหลักการที่จูงใจเเม่ทีมให้ไปหาลูกทีมเพิ่มมากๆคือการเเบ่ง % ให้  เช่นสมมติผมเป็นตัวเเทน ทองคำทุกๆหนึ่งบาทที่ผมขายผมได้ส่วนเเบ่งเลย 1-2% ของราคาทองที่ขาย เเถมไม่ต้องสต๊อคของ

 

โอโห เเม่เจ้า !! ขายของปุ๊ปได้เงินสดเข้าเลย เเถมไม่ต้องสต๊อค ขายลมปากเเต่ได้เงินสด เอาดิครับงี้ !!

นี่เเหละคือ "เเรงจูงใจ" ฝั่งคนที่เป็นคนตัวเเทนขาย ยิ่งหาคนมาซื้อได้เยอะเท่าไหร่ ยิ่งได้ส่วนเเบ่งเยอะซึ่งเป็นปกติมากสำหรับโมเดลธุรกิจเเบบ MLM หรือขายตรง เพราะทำงานบน Incentive ของคน 
 

เเรงจูงใจฝั่งคนซื้อ มองจากคนข้างนอกเราจะคิดเลยซื้อเข้าไปได้ไงวะ!! เเต่ถ้าเข้าใจ "ความเนียน" ของคนขายมันมีอีกสามเรื่องด้วยกัน 

หนึ่ง คำว่า ออมทอง มันดูน่าเชื่อถือในตัวมันอยู่เเล้ว ( ซึ่ง Big Name ในตลาดที่เค้าทำระบบออมทองออนไลน์กันเเบบถูกต้องก็เยอะเเยะ )

 

สอง การอวดอ้างของคนขายที่มีความน่าเชื่อถือ เช่นทำมานานเเล้วนะ ได้เงินมาตลอดนะ ไม่โกงหรอก 

เเต่เอาจริงการที่ยังไม่โกงไม่ได้เเปลว่าต่อไปไม่โกง หรือมองง่ายๆ incentive มันยังไม่มากพอให้หนีอ่ะ ไม่ใช่เอาที 30-40 ล้านเเล้วจบเเล้วเริ่มใหม่ เเต่เอาทั้งทีก็ล่อไปเลย 500-600 ล้าน เเล้วหนีไปใช้ชีวิตสัก 10-20 ปี คุ้มกว่า 

 

สาม ทีเด็ดที่ควรตั้งข้อสงสัย 

การออมทองของเค้าจะให้ราคาที่ Discount กว่าตลาด เช่น สมมติตอนนี้ทองคำราคา 30,000 บาท เเต่ถ้าคุณออมทองออนไลน์กับเค้า คุณจะใช้เงินในการออมทองหนึ่งบาทเเค่ 25,000 บาท ประหยัดกว่าเห็นๆ !! 

เเต่ตรงนี้ถามตัวเองดีๆครับว่า ใครหน้าไหนมันจะสามารถเอาทองมาขายได้ต่ำกว่าราคากลางมากๆ ทั้งๆที่ทองคำเป็นของที่มีสภาพคล่องสูงมาก เเค่คุณเดินไปร้านทองคุณก็ขายได้เงินมาเเล้ว มันไม่มีความจำเป็นเลยที่ใครสักคนจะมาขายทองให้เราในราคาถูก 

บางช่วงยังจะมีหน้ามาจัดโปรลดราคาทองอีกนะ สุดจริง !! 
เเละถามว่าถ้าคนเเห่ไปถอนทองพร้อมๆกัน มันมีสภาพคล่องมากพอให้คนถอนมั้ย ซึ่งมันเหมือนประเด็น Proof of Reserve ในโลกคริปโตนี่เเหละ 

 

เเต่ไอ้พวกนี้นะไม่มีหรอกครับ Reserve เน้นโมเดลธุรกิจขายลมปากได้เงินสดทั้งนั้น เเล้วเวลาจะโป๊ะขึ้นมา เช่น เริ่มติดต่อไม่ได้ หนีหน้า หลบหน้า หรือจ่ายช้า จะมีวลีเด็ดสองสามประโยคไว้ทดเวลาบาดเจ็บเตรียมหนีก่อนเสมอ 
ฉันคือผู้ให้สำหรับทุกคน .. 
คนที่เข้าใจเท่านั้นถึงจะไปต่อด้วยกันได้ ..
เชื่อใจผมเหมือนที่ผมเชื่อใจทุกคนนะครับ ..

 

เพราะฉะนั้นต้องรู้เท่าทัน ระบบธุรกิจบนทุนนิยมมันทำงานบนหลัก 20/80 เสมอ มันคือการที่คนส่วนมากทำให้คนส่วนน้อยรวยขึ้น ไม่ว่าจะมาในรูปเเบบไหนก็ตาม

Financial Freedom จะเกิดกับ"ยอด"พีระมิดไม่ใช่ที่ฐานพีระมิด จำไว้ !! 

ไม่มีหรอกครับ รวยเเบบเท่าๆกันเป็นพันเป็นหมื่นคน หรือได้เงินง่ายๆในวงกว้าง นี่คือธรรมชาติของระบบที่ต้องเข้าใจเรื่องกลไกการเงิน กลไกการโกง เอาจริงๆผมว่าต้องบรรจุลงในหลักสูตรการเรียนด้วยซ้ำความรู้เรื่องเงินสำคัญเสมอไม่งั้นมันก็จะวนมาเเบบนี้เเละมีคนเป็นเหยื่อเเบบนี้ทุกปี