วันครูแห่งชาติ หรือ วันครูแห่งประเทศไทย เวียนมาบรรจบอีกปีแล้ว ในวันที่ 16 มกราคม 2566 ถือเป็นหนึ่งวันสำคัญที่แสดงให้เห็นความสำคัญของครู และอาชีพครู ในฐานะที่เป็นผู้เสียสละประกอบคุณงามความดี เพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชน โดยเฉพาะการถ่ายทอดวิชาความรู้ให้แก่ลูกศิษย์
อย่างไรก็ตามเพื่อให้เห็นเรื่องวันสำคัญของวันครูแห่งชาติ ฐานเศรษฐกิจได้รวบรวม ข้อควรรู้ของวันครูมาให้รับทราบกันว่ามีอะไรบ้าง
1.จุดเริ่มต้นของวันครู
เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2499 กำหนดให้วันที่ 16 มกราคม ของทุกปีเป็น “วันครูแห่งประเทศไทย” เพื่อเป็นวันแห่งการรำลึกถึงความสำคัญของครู โดยคุรุสภาเป็นหน่วยงานหลักในการจัดงาน เช่น ประกอบพิธีระลึกถึงคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริมสามัคคี ความเข้าใจอันดีระหว่างครูกับประชาชน
โดยการจัดงานวันครูได้จัดเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2500 จนถึงปัจจุบันในปีนี้ จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 67 โดยสถานที่จัดงานวันครูครั้งแรกของจังหวัดพระนครและธนบุรี คือ กรีฑาสถานแห่งชาติ
2.ดอกไม้ประจำวันครู
เมื่อปี 2539 คณะกรรมการจัดงานวันครู ได้มีมติกำหนดให้ “ดอกกล้วยไม้” เป็นดอกประจำวันครู โดยพิจารณาเห็นว่า ธรรมชาติของดอกกล้วยไม้มีลักษณะคล้ายคลึงกับงานจัดการศึกษาและสภาพชีวิตครู
3.คำขวัญวันครู 2566
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบสารวันครูและคำขวัญเนื่องในโอกาสวันครู ครั้งที่ 67 พ.ศ.2566 ความว่า “ครูดี ศิษย์ดี มีอนาคต”
4.เพลงเกี่ยวกับวันครู
เพลงที่ได้รับการเปิดมากที่สุดในวันครู หนึ่งในนั้นคือเพลง "พระคุณที่สาม" ขับร้องโดย คำร้อง-ทำนอง สุเทพ โชคสกุล
5.จำนวนครูในประเทศไทย
ปัจจุบันข้อมูลจากกระทรวงศึกษาธิการ แจ้งว่า ประเทศไทยมีจำนวนข้าราชการในระบบประมาณ 3.5 แสนคน คิดเป็นสัดส่วนครู 1 คนต่อนักเรียน 19 คน
6.ค่าตอบแทนของครูไทย
โครงสร้างเงินเดือนข้าราชการครูต่ำสุดเดือนละ 15,050 บาท (ครูผู้ช่วย) สูงสุด 76,800 บาท ยังไม่รวมเงินประจำตำแหน่งและเงินพิเศษอื่นๆ
7.ปัญหาสะสมหนี้สินครูไทย
จากข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการพบว่ามีครูและข้าราชการบำนาญเป็นหนี้สหกรณ์และสถาบันการเงินกว่า 900,000 คน มีภาระหนี้รวมประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท