ความพยายามในการการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ในรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาล หวย 6 หลัก และ หวย 3 หลัก เพื่อแก้หวยแพงและทำให้ประชาชนมีทางเลือก ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด)สลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2566 เห็นชอบแนวทางการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งสลากเลข 6 หลัก (L6) และสลากเลข 3 หลัก (N3) ด้วย หลังจากที่เคยเสนอเรื่องดังกล่าวถึงกระทรวงการคลังแล้ว โดยคาดว่าภายในปีนี้ สนง.สลากฯ จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้ง L6 และ N3 ออกมาอย่างแน่นอน
รูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาล "หวย 3 หลัก" หรือ NUMBERS 3 หรือ N3 และ "หวย 6 หลัก" สลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก หรือ LOTTERY 6 หรือ L6
หวย 3 หลัก (NUMBERS 3: N3)
เป็นสลากประเภทสมทบสมทบเงินรางวัล ตามมาตรา 26 แห่ง พ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาลฯ
หากการออกรางวัลในงวดใดไม่มีผู้มีสิทธิเรียกร้องเงินรางวัลจะนำเงินที่จัดสรรไว้ไปสมทบ เพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลในงวดถัดไปก็ได้ แต่จะจ่ายได้ไม่เกินหนึ่งงวด
เงินที่ได้นำไปสมทบเพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลในงวดถัดไปนั้น ถ้าไม่มีผู้มีสิทธิเรียกร้องเงินรางวัลดังกล่าว ให้นำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
วิธีการเลือกสลาก
เลือกหมายเลขได้ ตั้งแต่ 000 ถึง 999 จำนวน 1 หมายเลขต่อการเลือกซื้อสลาก 1 รายการ การซื้อทุกๆ 1 รายการ จะได้หมายเลขรางวัลพิเศษ 1 หมายเลข ซื้อสลาก 1 รายการมีสิทธิลุ้นทุกรางวัล
ผู้ซื้อหรือขายสลากประเภทนี้ต้องมีอายุ 20 ปี ขึ้นไป
สัดส่วนยอดการจำหน่าย
ร้อยละ 60 เป็นเงินรางวัล
ไม่น้อยกว่าร้อยละ 23 เป็นรายได้แผ่นดิน
ไม่เกินกว่าร้อยละ 17 เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน
การจัดสรรรางวัล กำหนด 4 รางวัล
รางวัลสามตรง (ตรงเลข-ตรงหลัก) คือ ตัวเลขที่เลือกตรงกับผลการออกรางวัล และหลักตรงกัน
รางวัลสามสลับหลัก (ตรงเลข-สลับหลัก) คือ เลขที่เลือกตรงกับผลการออกรางวัลแต่ละหลักสลับกัน
รางวัลสองตรง (ตรงเลข-ตรงหลัก) คือ ตัวเลขที่เลือกตรงกับผลการออกรางวัลและหลักตรงกัน
รางวัลพิเศษ และกำหนดสัดส่วนเงินรางวัลร้อยละ 60 ของยอดการจำหน่ายสลากรวมในแต่ละงวด กำหนดสัดส่วนในการจัดสรรเงินรางวัลคือ รางวัลสามตรง ร้อยละ 30 รางวัลสามสลับหลัก ร้อยละ 30 รางวัลสองตรง ร้อยละ 39 และรางวัลพิเศษ ร้อยละ 1 โดยกำหนดอัตราการจ่ายเงินรางวัลให้กับผู้ถูกรางวัลแต่ละรางวัล ให้ครบร้อยละ 60
การจัดให้มีสลาก
หวย 3 หลัก เป็นสลากแบบดิจิทัล ไม่มีกำหนดหมายเลขสลากกำกับไว้ในระบบดิจิทัล ผู้ซื้อสามารถเลือกหมายเลขที่ตนเองต้องการได้ทุกหมายเลข ตั้งแต่ 000 – 999 ออกจำหน่ายผ่านช่องทางดิจิทัล
การออกรางวัล
ออกรางวัล เดือนละ 2 ครั้ง คือวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน
การจ่ายเงินรางวัล
เงินรางวัลร้อยละ 60 ของยอดการจำหน่ายสลากรวมในแต่ละงวด กำหนดจ่ายเงินรางวัลแบบผันแปรในแต่ละรางวัล ยกเว้นรางวัลพิเศษ เงินรางวัลจ่ายเป็นจำนวนเต็ม เศษของเงินรางวัลทุกรางวัล จะนำไปรวมกับรางวัลพิเศษ ดังนี้
รางวัลสามตรง จ่ายแบบผันแปร จากเงินรางวัลที่ได้รับจัดสรรร้อยละ 30 ให้กับผู้ถูกรางวัลตามจำนวนผู้ถูกรางวัลสามตรง ในอัตราจ่ายเท่ากันทุกราย เป็นเงินจำนวนเต็มไม่มีเศษ (ปัดเศษทิ้ง) และนำเศษที่เหลือ นำไปรวมสมทบกับรางวัลพิเศษ
รางวัลสามสลับหลัก จ่ายแบบผันแปร จากเงินรางวัลที่ได้รับจัดสรรร้อยละ 30 ให้กับผู้ถูกรางวัลตามจำนวนผู้ถูกรางวัลสามสลับหลัก ในอัตราจ่ายเท่ากันทุกราย เป็นเงินจำนวนเต็มไม่มีเศษ (ปัดเศษทิ้ง) และนำเศษที่เหลือ นำไปรวมสมทบกับรางวัลพิเศษ
รางวัลสองตรง จ่ายแบบผันแปร จากเงินรางวัลที่ได้รับจัดสรรร้อยละ 39 ให้กับผู้ถูกรางวัลตามจำนวนผู้ถูกรางวัลสองตรง ในอัตราจ่ายเท่ากันทุกราย เป็นเงินจำนวนเต็มไม่มีเศษ (ปัดเศษทิ้ง) และนำเศษที่เหลือ นำไปรวมสมทบกับรางวัลพิเศษ
รางวัลพิเศษ จ่ายจากเงินรางวัลที่ได้รับจัดสรรร้อยละ 1 และเศษของเงินรางวัลที่ถูกนำมาสมทบให้กับผู้ถูกรางวัลตามจำนวนผู้ถูกรางวัลพิเศษ
ผู้ถูกรางวัลได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ต้องชำระอากรแสตมป์ใบรับรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ในอัตรา 200 บาท หรือเศษของ 200 บาท ต่ออากรแสตมป์ 1 บาท ตามประมวลรัษฎากร (อัตราส่วนค่าอากรแสตมป์ 0.50 บาท ต่อเงินรางวัล 100 บาท หรือเศษของ 100 บาท)
หวย 6 หลัก หรือ LOTTERY 6 หรือ L6
สลากไม่สมทบเงินรางวัล หากการออกรางวัลในงวดใดไม่มีผู้มีสิทธิเรียกร้องเงินรางวัล และไม่ได้นำไปสมทบเพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลในงวดถัดไป ให้นำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
วิธีการเลือกสลาก
เลือกสลาก 1 หมายเลขต่อ ฉบับ/รายการ ประกอบด้วย หมายเลข 6 หลัก ตั้งแต่ 000000-999999 ที่ปรากฎอยู่บนใบสลากหรือบนระบบดิจิทัล ต่อ 1 ฉบับ/รายการ
คุณสมบัติ
จำกัดอายุผู้ซื้อ-ผู้ขาย 20 ปี ขึ้นไป
สัดส่วนยอดการจำหน่าย
ร้อยละ 60 เป็นเงินรางวัล
ไม่น้อยกว่าร้อยละ 23 เป็นรายได้แผ่นดิน
ไม่เกินกว่าร้อยละ 17 เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน
การจัดสรรรางวัล
จำหน่ายออกเป็นชุด ชุดละ 1,000,000 ฉบับ/รายการ แต่ละฉบับ/รายการ ประกอบด้วย หมายเลข 6 หลัก ตั้งแต่ 000000-999999 ในแต่ละชุดเป็นการกำหนดหมายเลขไว้ล่วงหน้า (มีหมายเลขจำกัด)
ไม่สามารถเลือกเลขซ้ำกันได้ การจัดสรรรางวัลในแต่ละชุด มี 9 รางวัล จำนวนรางวัลทั้งหมด 14,168 รางวัลต่อสลาก 1 ชุด
การจัดให้มีสลาก
สลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก จะมีสลาก 2 แบบ
สลากแบบใบ เป็นสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มีการพิมพ์ออกมาเป็นใบ โดยมีการพิมพ์หมายเลขสลากกำกับไว้บนใบสลาก
สลากแบบดิจิทัล เป็นสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มีการกำหนดหมายเลขสลากกำกับไว้ในระบบดิจิทัล ออกจำหน่ายผ่านช่องทางดิจิทัล
การออกรางวัล
ออกรางวัล เดือนละ 2 ครั้ง คือวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน
การจ่ายเงินรางวัล
เงินรางวัลร้อยละ 60 ของยอดการจำหน่ายสลากรวมในแต่ละงวด กำหนดสัดส่วน ในการจัดสรรเงินรางวัล คือ รางวัลที่ 1 ร้อยละ 12.50 รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 ร้อยละ 0.42 รางวัลที่ 2 ร้อยละ 2.08
รางวัลที่ 3 ร้อยละ 1.67 รางวัลที่ 4 ร้อยละ 4.17 รางวัลที่ 5 ร้อยละ 4.17 รางวัลเลขหน้า 3 ตัว ร้อยละ 16.66 รางวัลเลขท้าย 3 ตัว ร้อยละ 16.66
รางวัลเลขท้าย 2 ตัว ร้อยละ 41.67 เงินรางวัลจ่ายแบบผันแปรตามยอดการจำหน่ายสลาก สลาก 1 ชุด มี 1,000,000 ฉบับ/รายการ และหากจำหน่ายสลากไม่หมด กำหนดเงินรางวัลต่อชุด เงินรางวัลหนึ่ง ๆ ต้องลดลงตามส่วน แต่ต้องให้ครบ ร้อยละ 60 ของยอดการจำหน่าย
ผู้ถูกรางวัลได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ต้องชำระอากรแสตมป์ใบรับรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ในอัตรา 200 บาท หรือเศษของ 200 บาท ต่ออากรแสตมป์ 1 บาท ตามประมวลรัษฎากร (อัตราส่วนค่าอากรแสตมป์ 0.50 บาท ต่อเงินรางวัล 100 บาท หรือเศษของ 100 บาท)