ในช่วง เทศกาลคริสต์มาส การใช้จ่ายของผู้บริโภคทั่วโลกก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและกลายเป็นแหล่งขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจโลก อีคอมเมิร์ซหรือการจับจ่ายซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์กลายเป็นช่องทางหลักในการซื้อของเทศกาลในหลายประเทศ โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือและยุโรปที่มียอดขายออนไลน์ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าแนวโน้มการช็อปปิ้งออนไลน์จะกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น แต่ตลาดที่ดั้งเดิมก็ยังคงมีบทบาทสำคัญโดยเฉพาะในบางภูมิภาคที่การเยี่ยมชมร้านค้าหรือการตลาดในชุมชนยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
คริสต์มาสเป็นเทศกาลที่มีการเฉลิมฉลองโดยผู้คนหลายล้านคนทั่วโลก แต่รูปแบบการเฉลิมฉลองอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ในบางประเทศที่ไม่ใช่คริสเตียน คริสต์มาสได้กลายเป็นเทศกาลที่คล้ายกับวันปีใหม่ โดยมีการเน้นไปที่การช้อปปิ้ง การรวมตัวของครอบครัว และกิจกรรมในชุมชน
จากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติและหน่วยงานวิจัยตลาดต่างๆ ระบุว่า...
การเฉลิมฉลองคริสต์มาสทั่วโลกได้กลายเป็นมากกว่าแค่เทศกาลทางศาสนา โดยผู้คนจากหลากหลายศาสนาและวัฒนธรรมต่างก็ยินดีร่วมกิจกรรมนี้เพื่อแสดงความสุข การแลกเปลี่ยนของขวัญ และการร่วมแบ่งปันบรรยากาศแห่งความสุขในช่วงเทศกาล
ตามรายงานจาก Statista คาดว่าในปี 2024 ยอดขายออนไลน์ในช่วงเทศกาลจะเกิน 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งแสดงถึงการเติบโตที่สำคัญจากปีที่แล้ว โดยส่วนใหญ่ได้รับผลจากการเติบโตของการค้าผ่านมือถือและการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการแนะนำสินค้าต่างๆ แพลตฟอร์มใหญ่ของต่างประเทศอย่าง Amazon, Alibaba, และ Flipkart เป็นผู้นำในตลาดนี้ การเข้าถึงที่สะดวกสบายจากอุปกรณ์เคลื่อนที่และบริการชำระเงินที่ง่ายดายได้ช่วยให้การช็อปปิ้งออนไลน์กลายเป็นตัวเลือกที่สะดวกสบายและมีประสิทธิภาพสำหรับผู้บริโภคจำนวนมาก
ในขณะที่อีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ตลาดที่ดั้งเดิมหรือการซื้อของในร้านก็ยังคงมีเสน่ห์และความน่าสนใจ การเยี่ยมชมตลาดคริสต์มาสในประเทศเยอรมนีและออสเตรียดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากในแต่ละปี สร้างรายได้ให้แก่เศรษฐกิจท้องถิ่นและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สถานที่ดังกล่าวมักจะมีบรรยากาศเฉพาะตัวที่ผู้ซื้อไม่สามารถสัมผัสได้จากการช็อปปิ้งออนไลน์ การซื้อสินค้าในร้านเช่น Macy’s ในสหรัฐอเมริกายังคงได้รับความนิยมจากลูกค้าที่ต้องการโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะในช่วงเทศกาล
แม้ว่าการซื้อของออนไลน์จะเป็นแนวโน้มหลัก แต่การช็อปปิ้งแบบผสมผสานหรือ Omnichannel ก็มีบทบาทสำคัญในการเสริมประสบการณ์ของผู้บริโภคในปีนี้ บริการเช่น Click-and-Collect และการเยี่ยมชมร้านค้าเสมือนจริงเป็นทางเลือกที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าในรูปแบบที่สะดวกสบายและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย
ในปี 2024 การช็อปปิ้งคริสต์มาสไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการเลือกซื้อของขวัญและสินค้าเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความต้องการในการซื้อสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเลือกซื้อสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ หรือการเลือกส่งสินค้าที่ยั่งยืนจากแหล่งที่มีการปล่อยคาร์บอนต่ำกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่เป็น Millennials และ Gen Z ซึ่งมักจะให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
การปรับตัวของผู้บริโภคในปี 2024 ยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ท้าทาย ราคาสินค้าที่สูงขึ้นและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทำให้ผู้ซื้อพิจารณามากขึ้นในการเลือกซื้อสินค้า ในช่วงเทศกาลนี้ ข้อเสนอพิเศษจาก Black Friday ในต่างประเทศและโปรโมชั่นต่างๆ ช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่จะมองหาส่วนลดเพื่อการช็อปปิ้งที่คุ้มค่ามากขึ้น
ในด้านเศรษฐกิจ การใช้จ่ายในช่วงคริสต์มาสมีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าในปี 2024 การใช้จ่ายในช่วงเทศกาลจะช่วยสร้างรายได้รวมกว่า 900 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งส่งผลดีต่อการจ้างงานในภาคค้าปลีก โลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมการบริการ รวมถึงการสร้างการเติบโตให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่นและทั่วโลก
ท่ามกลางการเติบโตของอีคอมเมิร์ซและการคงอยู่ของการช็อปปิ้งในร้านที่ดั้งเดิม แนวโน้มการซื้อสินค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลยังคงมีบทบาทสำคัญในตลาดผู้บริโภค ความท้าทายที่เกิดจากภาวะเงินเฟ้อและการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายจะส่งผลต่อพฤติกรรมการช็อปปิ้งในอนาคต ซึ่งการตอบสนองอย่างรวดเร็วและนวัตกรรมในธุรกิจต่างๆ จะช่วยให้พวกเขาอยู่รอดในช่วงเทศกาลที่สำคัญนี้ได้
สำหรับธุรกิจที่ต้องการประสบความสำเร็จในช่วงเทศกาลคริสต์มาสปี 2024 การปรับตัวและการนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคดิจิทัลเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน การบูรณาการระหว่างการค้าผ่านออนไลน์และในร้านค้าจะช่วยให้พวกเขาสามารถครองใจผู้บริโภคในช่วงเทศกาลนี้ได้