เกาะติด "พายุโนรูเข้าไทย" 29 ก.ย. 65 เวลา 10.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานผลกระทบพายุโนรู ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง โดยช่วงวันที่ 28 - 29 ก.ย.65 เกิดสถานการณ์อุทกภัยและวาตภัยในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร อุบลราชธานี รวม 5 อำเภอ 5 ตำบล 5 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากสถานการณ์ผลกระทบพายุโนรู ซึ่งได้เคลื่อนเข้าประเทศไทยบริเวณ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (28 ก.ย.65) ส่งผลทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรงบริเวณภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ทำให้ช่วงวันที่ 28 - 29 ก.ย.65 เกิดสถานการณ์อุทกภัยและวาตภัยในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร อุบลราชธานี รวม 5 อำเภอ 5 ตำบล 5 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย (จ.ศรีสะเกษ สาเหตุจากลมพัดต้นไม้ล้มทับรถยนต์) ซึ่งภาพรวมระดับน้ำลดลงทุกพื้นที่ แยกเป็น
1. อำนาจเจริญ เกิดฝนตกหนัก ส่งผลกระทบในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอำนาจเจริญ และอำเภอลืออำนาจ รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6 ครัวเรือน
2. ศรีสะเกษ เกิดฝนตกหนักและวาตภัยในพื้นที่ตำบลเมืองหลวง อำเภอห้วยทับทัน ส่งผลให้ต้นไม้ล้มทับรถกระบะ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้บาดเจ็บ 2 ราย
3. ยโสธร เกิดฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ตำบลหนองหิน อำเภอเมืองยโสะร ทให้ถนนเสายหาย ไม่สามารถสัญจรผ่านได้
4. อุบลราชธานี มีฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอเมืองอุบลราชธานี มีสภาพอากาศแปรปรวน ส่งผลกระทบต่อการเดินอากาศ โดยวัดปริมาณน้ำในที่ ต.นิคมสร้างตนเอง อ.สิรินธร 230 มิลลิเมตร และที่ตำบลท่าช้าง อำเภอสว่างวีระวงค์ 164.1 มิลลิเมตร
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานจังหวัดที่ประสบภัยและจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบติดตามสถานการณ์พายุโนรูอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประเมินและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่จะเกิดขึ้น สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯต่อไป
ภาพและข้อมูลจาก : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM