กรุงเทพแนวโน้มเจอฝนตกหนักอีกระลอกถึงวันที่ 7 ต.ค.นี้ รวมทั้งมีมวลน้ำเหนือสมทบเพิ่มเติม กทม.เฝ้าระวังพื้นที่อ่อนไหวจุดท่วมขังซ้ำซากพร้อมขอความร่วมมือหน่วยงาน Work From Home หรือเลิกงานเร็ว ลดผลกระทบการเดินทาง
ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวานนี้ฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างล่าช้า หลายพื้นที่น้ำท่วมขังสูง ในเช้าวันนี้ สถานการณ์น้ำที่เคยท่วมขังบางพื้นที่กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังในพื้นที่อ่อนไหว ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ทางกรุงเทพมหานครโซนเหนือ ที่สถานการณ์น้ำสูงเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะหลักสี่ ดอนเมือง 15-40 เซนติเมตร ส่วนทางฝั่งบางเขน วงเวียนบางเขน อยู่ที่ประมาณ 20-25 เซนติเมตร
คาดการณ์วันนี้ช่วงเย็น อาจจะมีฝนตกลงมาและอาจจะทำให้บางพื้นที่ท่วมขังสูง ทางกรุงเทพมหานคร ได้มีการสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ออกหน่วยให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งการดูแลรถ จากกองจักรกล กรุงเทพมหานคร และจากสถาบันอาชีวะต่างๆ และการรับส่ง โดยเฉพาะพื้นที่อ่อนไหว
รวมถึงได้มีการเสริมแนวคันกั้นน้ำรอบพื้นที่กรุงเทพมหานคร และส่วนที่เป็นฟันหลอได้มีการเสริมกระสอบทรายทั้งหมด ซึ่งทางสำนักระบายน้ำสำนักโยธาและสำนักงานเขตแต่ละแห่งได้มีการลงพื้นที่สำรวจในทุกวันว่ามีพื้นที่ใดที่จะต้องซ่อมแซมแนวคันกั้นน้ำเพิ่มเติม และการนำเครื่องสูบน้ำไปประจำยังจุดที่มีน้ำท่วมขังสูงในการเร่งระบายน้ำ
อีกทั้งประสานงานกับกรมชลประทานในการพร่องน้ำ เนื่องจากขณะนี้มวลน้ำเหนือกำลังจะลงมาสมทบอีก บวกกับปริมาณฝนที่กำลังจะตกลงมาเพิ่ม ส่วนการสื่อสารกับประชาชน การคาดการณ์ฝนที่จะตกลงมาสามารถที่จะออกประกาศเตือนได้ 1-2 ชั่วโมงก่อนที่จะมีกลุ่มฝนแน่นอน ขอให้ประชาชนบริหารจัดการในช่วงเวลาที่จะกลับบ้านให้ดี หากเป็นไปได้ หน่วยงานหรือองค์กรใด สามารถที่จะอนุญาต ให้พนักงานเลิกงานหรือกลับบ้านได้เร็วก่อนเวลาก็ขอให้ทำก่อน รวมถึงในสัปดาห์นี้ หากเป็นไปได้ ขอความร่วมมือ องค์กร หน่วยงานต่างๆ อาจจะให้พนักงานสามารถทำงานที่บ้านได้
"เมื่อวานนี้ได้มีการประชุมเรื่องสถานการณ์น้ำกับทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สถานการณ์เฉพาะหน้าที่จะช่วยเหลือประชาชนจากผลกระทบจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักช่วงเย็นเมื่อวานนี้ ได้มีการนำรถรถยกสูงและรถทหารมาคอยรับส่งประชาชน
และเจ้าหน้าที่ทหารช่วยกันกรอกกระสอบทราย ซึ่งทางกรุงเทพมหานคร ต้องการกระสอบทรายอีกจำนวนมากในการนำไปทำแนวคัน อีกประมาณ 2 ล้านถุง ซึ่งจะต้องทำให้เสร็จภายใน 2-3 วันนี้ เนื่องจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติหรือ สทนช. ได้มีการคาดการณ์ ว่า วันที่ 5-7 ตุลาคมจะมีฝนตกลงมาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางอีก"
ขณะเดียวกัน กรุงเทพมหานคร ได้มีการพร่องน้ำเต็มกำลัง มีการประสานกับทางกรมชลประทานในการพร่องน้ำ แต่ในรอบนี้ สถานการณ์โดยรอบกรุงเทพมหานคร ในพื้นที่เชื่อมต่อปริมณฑล ก็ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำเช่นเดียวกัน ทำให้การระบายน้ำออกค่อนข้างที่จะลำบาก แต่ตอนนี้ในพื้นที่พยายามที่จะพร่องน้ำออกตามพื้นที่ต่างๆ ให้ได้มากที่สุด
ส่วนสถานการณ์ จากพายุโนรูทางกรุงเทพมหานครไม่ได้รับผลกระทบจากในส่วนนี้มากนัก แต่ทางกรุงเทพมหานครและปริมณฑลพื้นที่ส่วนล่าง อาจจะได้รับผลกระทบจากมวลน้ำที่ไหลลงมา ซึ่งในวงประชุมกับทางนายกรัฐมนตรีได้มีการพูดถึงสถานการณ์และแผนการรับมือน้ำต่อจากนี้ ทำให้ในพื้นที่กรุงเทพมหานครต้องเร่งระบายน้ำท่วมขังออกให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งจะใช้ในรูปแบบผันน้ำไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากฝนน้อยที่สุด เพื่อที่จะเตรียมรับมวลน้ำเหนือที่คาดว่าจะมาอีก 2-3 วันนี้