ที่กระทรวงมหาดไทย วันนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เรียกหน่วยงานต่าง ๆ ภายใต้การกำกับดูแล เข้าร่วมประชุมด่วน เพื่อหารือแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขออนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน หลังเกิดเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
โดยปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองภายใต้การนำของผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ กำหนดตัวชี้วัด การทำงาน เพื่อป้องกันภัยสังคมที่อาจเกิดขึ้น
ทั้งนี้ได้กำชับให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขออนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนด้วย หากพบว่า ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขาดคุณสมบัติให้ดำเนินการสั่งเพิกถอนใบอนุญาตนั้นทันที ตามมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ขณะเดียวกันยังกำชับมาตรการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด Re X – Ray กลุ่มเสี่ยง และกลุ่มข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่รัฐที่อาจยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด รวมถึงนำผู้ป่วยยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษา และเพิ่มความเข้มข้นการตรวจตรา และการตั้งด่านชุมชน
โดยปลัดอำเภอฝ่ายป้องกัน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เพื่อตรวจสารเสพติด เฝ้าระวังเหตุการณ์ที่อาจเป็นภัยต่อสังคมและอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการค้ามนุษย์
รวมทั้งขอให้ปลุกจิตวิญญาณให้คนในหมู่บ้านช่วยกันระวังภัย ทั้งคณะกรรมการหมู่บ้าน หรือ กม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คนในชุมชน มีการสื่อสารหรือรายงานสถานการณ์ที่เป็นความเสี่ยงให้กับฝ่ายปกครองทราบเพื่อจะได้เตรียมการป้องกันก่อนเกิดเหตุ
นอกจากนี้ยังให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สนับสนุนการตั้งด่านชุมชนของกรมการปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ พร้อมทั้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอให้ความสำคัญกับกิจกรรมของหมู่บ้านและชุมชน กองทุนแม่ของแผ่นดิน ต้องไม่มีการยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างแท้จริง และเฝ้าระวัง รวมถึงขยายผลไปยังเครือข่ายต่าง ๆ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมรณรงค์ไม่ให้มีการยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
“สิ่งที่ต้องคิดทบทวนต่อไป คือ จะเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้นเมื่อหน่วยงานหรือองค์กรที่มีหน้าที่ทำเต็มที่แล้ว เช่น ตรวจสอบความเสี่ยงจากเครื่องเล่นในสนามเด็กเล่น ติดกล้อง CCTV การจัดเวรยามคัดกรองบุคคลเข้ามาในสถานที่ หรือความปลอดภัยอื่น ๆ เบื้องต้นได้สั่งการให้ถอดบทเรียนและเร่งหารือแนวทางในการป้องกัน”