30 พฤศจิกายน 2565 ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 จ.สุราษฏร์ธานี โดยดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ ประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ ครั้งที่ 1/2565 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ กอนช. มีความห่วงใยต่อสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ขณะนี้ซึ่งที่ผ่านมาได้เน้นย้ำพร้อมมอบหมายให้ สทนช. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จุดเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อซักซ้อมหน่วยงานในการเร่งปฏิบัติการตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนอย่างเข้มข้น
รวมถึงได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดเข้าไปช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมให้แก่ประชาชนอย่างทันท่วงที พร้อมทั้ง ฟื้นฟู เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว รวมทั้งเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการมวลน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ทั้งนี้ ตามที่ กอนช.ได้มีการติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขา ที่มีปริมาณน้ำค่อนข้างมากจากฝนที่ตกหนักก่อนหน้านี้ และคาดการณ์ว่าจะมีฝนเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมนี้ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ขึ้น (ลงวันที่ 29 พ.ย.65)
โดยได้มอบหมายให้ สทนช. ในฐานะฝ่ายเลขานุการ กอนช. จัดตั้งศูนย์ส่วนหน้าฯ ภาคใต้ เพื่อบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบริหารจัดการน้ำและเผชิญเหตุในเชิงป้องกัน ทั้งในส่วนกลางและหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ ติดตาม วิเคราะห์ คาดการณ์ฝนรวมถึงพายุที่ยังมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงสถานการณ์น้ำ พร้อมแจ้งเตือน รวมถึงต้องเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ แผนเผชิญเหตุ เพื่อบริหารจัดการน้ำ โดยแบ่งการทำงานเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
ส่วนอำนวยการ ส่วนปฏิบัติการ ส่วนสนับสนุน และส่วนประชาสัมพันธ์ โดยทั้ง 4 กลุ่มจะเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันโดยประชุมติดตามสถานการณ์ต่อเนื่องทุกวัน จนกว่าสถานการณ์ฝนตกหนักจะเข้าสู่ภาวะปกติ
"การประชุมวันนี้ทุกหน่วยงานได้รับทราบองค์ประกอบคณะทำงานฯ และอำนาจหน้าที่ รวมทั้ง เตรียมการปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อบริหารจัดการสถานการณ์น้ำในพื้นที่ และช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 3 - 5 ธ.ค.นี้ กอนช.ประเมินว่า บริเวณภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง จากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น
ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง และหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่าง ตามประกาศ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 55/2565 เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง รวมถึงเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่มีแนวโน้มปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการเก็บกักน้ำสูงสุด (Upper Rule Curve) รวมทั้งอ่างฯ ขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำด้วย" ดร.สุรสีห์ กล่าว