กรมชลประทาน เร่งพร่องน้ำในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส) หลังมีฝนตกหนักสะสมติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้ระดับน้ำในลุ่มน้ำสายหลักเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ย้ำเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ทั้งนี้ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศแจ้งเตือน ฉบับที่ 5 (73/2565) เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก รวมถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในช่วงวันที่ 9-10 ธันวาคม 2565 นี้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้นั้น
กรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 17 ได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัย ด้วยการพร่องน้ำในพื้นที่ล่วงหน้า เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนที่จะตกลงมาเพิ่มเติม ปัจจุบันพร่องน้ำได้มากกว่า 3.6 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมทั้งเตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ กำลังเจ้าหน้าที่ เข้าไปประจำจุดเสี่ยง เพื่อให้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ทันที
นอกจากนี้ ยังได้กำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำและขุดลอกคลองกว่า 10 แห่ง เพื่อให้สามารถรองรับน้ำได้อย่างเต็มศักยภาพ ส่วนการตรวจสอบอาคารชลประทานทั้ง 131 แห่ง ยืนยันมีความพร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพทุกแห่ง
สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำสายหลัก 4 สาย ได้แก่ ลุ่มน้ำปัตตานี ลุ่มน้ำบางนรา ลุ่มน้ำสายบุรี และลุ่มน้ำโก-ลก ระดับน้ำยังคงต่ำกว่าตลิ่งแต่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีฝนตกสะสม ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2565 เป็นต้นมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เฝ้าระวังสภาพอากาศและติดตามสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากประชาชนหรือหน่วยงานใด ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือ โทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460