นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีผู้บริหารหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมการประชุมฯ ว่า สำหรับกรณีอธิบดีกรมอุทยานฯ ประพฤติมิชอบเรียกรับเงินหรือผลประโยชน์จากผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่จะไม่ต้องถูกโยกย้ายตำแหน่งหรือสับเปลี่ยนกำลังในหน่วยงานนั้น เบื้องต้นกระทรวงฯ ได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการทางวินัยตามกรอบของกฎหมาย และแจ้งให้สาธารณชนรับทราบถึงความคืบหน้าในเรื่องการทำงานของคณะกรรมการชุดดังกล่าว
นายวราวุธ กล่าวต่อว่า สำหรับการออกคำสั่งโยกย้ายการทำงาน ของอธิบดีกรมอุทยานฯ ตนได้ออกคำสั่งให้อธิบดีปฏิบัติราชการที่กระทรวง แต่นายกรัฐมนตรีได้ออกคำสั่งลงนามให้ไปปฏิบัติที่สำนักนายกด้วย จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติราชการในกระทรวงอีกต่อไป
“ส่วนกรณีที่มีคนมองว่า เราออกคำสั่งล่าช้านั้น สาเหตุที่แท้จริงคือตนมีภารกิจที่สำคัญ จึงลงนามในคำสั่งไม่ทัน ทั้งนี้คณะกรรมการที่แต่งตั้งจะพิจารณาและสอบสวนทุกคน ครอบคลุมทุกมิติ โดยภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวตนยังไม่ได้คุย กับนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งตนปล่อยให้เรื่องนี้อยู่ในกระบวนการสอบสวน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และโปร่งใส ขอเน้นย้ำว่าทำทุกอย่างตามขั้นตอน เราเสียใจ และขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น”
ทั้งนี้ในที่ประชุมได้ย้ำเตือนข้าราชการ ทั้งหมด 30,000 คน ในกระทรวงฯ ดำเนินการตามนโยบายการทำงาน, การรักองค์กร, การรักษาภาพลักษณ์ขององค์กรคือสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะความสุจริต ความโปร่งใส เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอีก และต้องการให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ตั้งใจทำงานแก้ปัญหากันอย่างหนักหน่วง ทุ่มเท ตลอด 3 ปีกว่า เมื่อเกิดปัญหาต้องแก้ปัญหาไปด้วยกัน