วันเด็กแห่งชาติ ปี 2566 ปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2566 โดยตามธรรมเนียมของวันเด็กในแต่ละปี นายกรัฐมนตรี จะมีการมอบคำขวัญวันเด็กออกมา ซึ่งในปีนี้ นายกฯประยุทธ์ ก็ได้ประกาศคำขวัญประจำปีออกมาแล้ว และนอกจากคำขวัญวันเด็กจากนายกรัฐมนตรี "ฐานเศรษฐกิจ"ยังได้นำคติธรรมจากสมเด็จพระสังฆราช ที่ประทานคติธรรมเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2566 มานำเสนออีกด้วย สามารถอ่านรายละเอียดได้ดังต่อไปนี้
คำขวัญวันเด็กปี 2566 จาก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
เมื่อย้อนกลับไปดูคำขวัญวันเด็ก ที่นายกรัฐมนตรี ลุงตู่ ได้มอบให้ก่อนหน้านี้ จะมีอะไรบ้าง ตรวจสอบได้เลยที่นี่
สมเด็จพระสังฆราชประทานคติธรรมเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2566
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ พุทธศักราช 2566 ความว่า
“เด็กและเยาวชนคืออนาคตของสังคมไทย ซึ่งจะเติบโตมาแทนที่ผู้ใหญ่ผู้กำลังร่วงโรยสู่วัยชราในไม่ช้า ถ้าเด็กและเยาวชนเป็นผู้มีสติปัญญาไม่เฉียบแหลม มีสุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิตใจอ่อนแอ ย่อมไม่อาจทำหน้าที่รับภาระของชาติบ้านเมืองในอนาคตได้อย่างเต็มกำลังความสามารถ การกระทำตนให้ห่างพ้นจากภยันตรายที่อาจบั่นทอนสุขภาวะจึงเป็นหน้าที่สำคัญของเด็กๆ ทุกคน รวมทั้งผู้ใหญ่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบต่อเด็กก็ต้องบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม สภาพสังคม และกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้เอื้ออำนวยต่อสุขภาวะของเด็กและเยาวชนด้วย
หนึ่งในอบายมุขประการต้น ซึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงย้ำเตือนไว้ให้ผู้คนทุกชั้นวัย จงพาตัวหลีกร้างให้ห่างไกล อย่าได้คิดพอใจจะข้องแวะหรือเห็นว่าเป็นเรื่องโก้เก๋ดีงาม ได้แก่ การเสพสุรา ของมึนเมา และยาเสพติด ซึ่งมีโทษร้ายแรงถึง 6 ประการ กล่าวคือ
เพราะฉะนั้นเด็กและเยาวชนทุกคนจงตระหนักในโทษภัยของสุรา ของมึนเมา และยาเสพติดทุกชนิด อย่าเห็นว่าลองเพียงเล็กน้อยไม่เป็นไร หรือสิ่งเสพติดชนิดนั้นไม่มีโทษ สิ่งมีนเมาชนิดนี้ไม่เป็นภัยสักเท่าไร อุปมาสะเก็ดไฟเพียงน้อย อาจติดลุกลามไหม้บ้านเรือนจนพินาศหมดสิ้นได้ฉันใด สุรายาเมาหรือสิ่งเสพติดเพียงน้อย ก็อาจก่อความวิบัติอย่างใหญ่หลวงแก่ชีวิตได้ฉันนั้น
ขอให้เด็กและเยาวชน รวมทั้งผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการเลี้ยงดูประคับประคองเด็กและเยาวชน มีกำลังใจที่จะอบรมพัฒนาตนเองให้ถึงพร้อมด้วยสติสัมปชัญญะ ขอจงเร่งเพิ่มพูนคุณลักษณะความเป็นผู้คุณธรรม จริยธรรม เพื่อนำพาความเจริญก้าวหน้ามาสู่ตน ชุมชน และประเทศชาติอันเป็นรักยิ่งของเราทุกคน เทอญ”