สืบเนื่องจากข่าวที่เผยแพร่ผ่านสื่อมวลชน กรณีแม่ค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ไปซื้อสลากงวดวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 จำนวน 4 เล่ม รวม 400 ใบ ราคาใบละ 90 บาท จากตลาดที่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อนำไปจำหน่าย ต่อมาพบว่าเนื้อกระดาษไม่เหมือนกับสลากที่จำหน่ายอยู่ จึงนำมาตรวจสอบที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และพบว่าเป็นสลากฯปลอมทั้งหมดนั้น
พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ภายหลังจากที่สำนักงานสลากฯ ดำเนินการตรวจสอบสลากทั้ง 400 ใบที่ผู้เสียหายนำมาและพบว่าเป็นสลากฯปลอม จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่พาผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี
ดังนั้น จึงขอเตือนตัวแทนจำหน่ายสลาก และผู้ซื้อจองล่วงหน้าฯ ให้ใช้ความระมัดระวังในการไปซื้อสลากจากบุคคลอื่นเพื่อนำไปจำหน่ายต่อ ทั้งนี้ หากได้รับการจัดสรรสลากแล้ว หรือเป็นผู้ซื้อจองล่วงหน้าฯ ที่ทำรายการได้แล้ว ควรจำหน่ายเฉพาะสลากที่ได้รับการจัดสรรจากสำนักงานสลากฯ เท่านั้น ไม่เช่นนั้นอาจตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทองจำนวนมาก
ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้กล่าวถึง วิธีสังเกตเพื่อตรวจสอบสลากในมือว่าเป็นของจริง หรือของปลอมว่า ตรวจดูคุณลักษณะทั่วไปของสลาก คือความหนาบางของกระดาษ รูปภาพสลาก ขนาดของตัวเลข และขนาดของตัวอักษร และตรวจสอบคุณลักษณะพิเศษของสลาก โดยให้สังเกตว่ากระดาษที่ใช้พิมพ์สลากจะมีลายน้ำในเนื้อกระดาษเมื่อส่องกับแสงไฟสีขาว หรือแสงสว่างจะมองเห็นลายน้ำรูปนกวายุภักษ์ในเนื้อกระดาษ และเมื่อส่องกับแสงไฟสีม่วง (แสงยูวี) จะมองเห็นเส้นไหม และเส้นที่พาดผ่านตัวเลข
ขณะเดียวกัน สำหรับประชาชนผู้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ขอให้มั่นใจว่า สลากทุกใบของสำนักงานพิมพ์ด้วยระบบที่ผ่านการรับรองคุณภาพตามหลักมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 ทำให้ไม่สามารถปลอมแปลงได้ นอกจากนี้ ยังสามารถซื้อสลากดิจิทัล ผ่านแอพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 17 ล้านใบ เป็นสลากของแท้จากสำนักงานสลากฯ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนอีกด้วย
สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่รับซื้อรางวัล ก็ขอให้ใช้ความระมัดระวัง ในการตรวจสอบสลากที่มีผู้มาขึ้นเงินรางวัล โดยในเบื้องต้นให้ใช้วิธีการเปรียบเทียบกับสลากของจริงของสำนักงานสลากฯ ในงวดนั้นๆ เพื่อหาความแตกต่างกับสลากที่ต้องการตรวจพิสูจน์ เช่น มีลักษณะเรืองแสง หรืออาจใช้น้ำสะอาดมาถูบนสลาก ซึ่งหมึกที่ใช้พิมพ์ตัวเลขสลากของจริงเมื่อถูกน้ำจะไม่ละลาย นอกจากนี้ ยังสามารถใช้วิธีตรวจหาร่องรอยการแก้ไขหรือการตัดแปะตัวเลขบนสลากได้โดยใช้กล้องหรือแว่นขยายส่องบริเวณจุดที่สงสัยว่าจะมีการแก้ไข เช่น บริเวณหมายเลขสลาก หรืองวดวันที่ โดยนำตัวเลขจากฉบับอื่นมาปะทับบนตัวเลขที่ไม่ต้องการ หรือตัวเลขที่ไม่ถูกรางวัลเพื่อให้ได้หมายเลขตรงกับสลากที่ถูกรางวัล รวมทั้งการแก้ไขด้วยวิธีขูด ลบ ลอก ตัวเลขเดิมที่ไม่ต้องการออก แล้วนำตัวเลขจากสลากฉบับอื่นมาปะแทนเพื่อให้ได้หมายเลขตรงกับสลากที่ถูกรางวัล เป็นต้น
ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวในตอนท้ายว่า ขอเตือนมิจฉาชีพที่ทำสลากฯปลอมการกระทำดังกล่าว มีความผิดตามกฎหมายอาญา ตามมาตรา 265 ผู้ใดปลอมเอกสารสิทธิหรือเอกสารราชการ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท ทั้งนี้สำนักงานสลากฯ มีเจ้าหน้าที่ในส่วนงานที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการตรวจพิสูจน์สลากโดยเฉพาะเพื่อให้บริการประชาชน