นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 3 เวลา 17.00 น. เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน มีผลกระทบในช่วงวันที่ 12 - 14 มีนาคม 2566
ในช่วงวันที่ 12 - 14 มีนาคม 2566 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้
จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายดังกล่าวที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
โดยจะมีผลกระทบดังนี้
วันที่ 12 มีนาคม 2566
- ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ:จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู และอุดรธานี
วันที่ 13 มีนาคม 2566
- ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ:จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร ชัยภูมิ ขอนแก่นและนครราชสีมา
- ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
- ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
วันที่ 14 มีนาคม 2566
- ภาคตะวันออก:จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยกรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 05.00 น.
ขณะที่สภาพอากาศประเทศไทยวันนี้ - วันพรุ่งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์อากาศของแต่ละภาค ดังนี้ (เวลา 18:00 น. วันนี้ ถึง 18:00 น. วันพรุ่งนี้)
ภาคเหนือ
- อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
- อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
- อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง
- มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
- อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
- มีหมอกบางในตอนเช้า และมีอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
- โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากบริเวณตามแนวชายฝั่ง
- อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
- มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
- ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี สงขลา ยะลา และนราธิวาส
- อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส
- ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
- ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
- มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
- อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
- มีหมอกบางในตอนเช้า และมีอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
- อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.