เกย์แดนซ์เฟสติวัลสายพันธุ์ไทยที่จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 17 จนเป็นที่รู้จักและกล่าวขานถึงในกลุ่มเกย์ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้ และกำลังซื้อสูง ล่าสุดงาน “สงกรานต์ 2023: เดอะบิ๊กแบง” (SONGKRAN 2023: THE BIG BANG” กลับมาจัดขึ้นอีกครั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 13-16 เมษายนนี้
นายสุเมธ ศรีเมือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเซอร์คิท จำกัด กล่าวว่า บริษัทจีเซอร์คิทกลับมาจัดงานสงกรานต์ 2023 เดอะบิ๊กแบง อย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง หลังจากที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 นาน 3 ปี ทำให้เชื่อมั่นว่าจะได้กระแสตอบรับที่ดีเกินคาดจากผู้ชมกลุ่มเกย์จากทั่วโลก ที่เพิ่มขึ้นทุกปี เพราะจีเซอร์คิทเป็นแบรนด์ที่ติดตลาดไปแล้ว และกลายเป็นงานที่กลุ่มเกย์ต้องมาทุกปี
ทั้งนี้ จีเซอร์คิทนับเป็นเกย์แดนซ์เฟสติวัลที่ดี และยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาให้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และมีความแตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ในตลาด ด้วยประสบการณ์แบบ Unique Experience เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานรู้สึกสนุก ตื่นตาตื่นใจ และประทับใจกับทุกช่วงเวลาแห่งความสนุกที่จะมีเพียง 1 ครั้งในรอบปี
จึงทำให้ทุก ๆ อย่างที่ถูกนำเสนอในการจัดงานของจีเซอร์คิทปีนี้ ได้ผ่านการคัดสรรอย่างดีที่สุด ไม่ใช่แค่เรื่องดนตรี ไลน์อัพดีเจ โกโกบอย โกโกแบร์ และโปรดักชั่นตระการตา แต่คือการร้อยเรียง สอดประสานกันเพื่อพาทุกคนเข้ามาสู่อาณาจักร SONGKRAN 2023: THE BIG BANG (สงกรานต์ 2023: เดอะบิ๊กแบง) ที่จะตื่นตาตื่นใจ สนุก มันส์ และคุ้มค่ากับการรอคอย
โดยการจัดงานในปีนี้กลุ่มเป้าหมายหลักคือ กลุ่มเกย์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีรายได้ และกำลังซื้อสูง ส่งผลให้บัตรคอมโบ แบบ 4 วันขายหมดเกลี้ยงเป็นที่เรียบร้อยหลายสัปดาห์ก่อนที่งานจะเริ่ม ทั้งนี้จีเซอร์คิทไม่ได้มีแค่ความสนุกสนานเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องการสร้างแบรนด์ การขยายการเติบโต กลยุทธ์ในมุมต่าง ๆ ที่ถูกคิดไปพร้อม ๆ กับโปรดักชั่นสุดอลังการระดับโลก ทำให้จีเซอร์คิท กลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กงานสงกรานต์ในกรุงเทพฯ ที่กลุ่มเกย์ทั่วโลกต่างรอคอย
“ปีนี้จีเซอร์คิทกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อตอกย้ำภาพผู้นำตลาดโชว์บิซกลุ่มตลาดเกย์โดยเฉพาะอีกครั้ง กับ ‘SONGKRAN 2023: THE BIG BANG’ เกย์แดนซ์เฟสติวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียที่จัดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมีเป้าหมายหลักสำคัญคือ ผลักดันให้งานนี้กลายเป็น ‘GAY TOURISM’S DESTINATION' หรือการเป็นหมุดหมายสำคัญของกลุ่มเกย์จาก 50 ประเทศทั่วโลกให้เดินทางมาเยือนประเทศไทย
เพื่อเข้าร่วมงานนี้มากกว่า 8,000 คน จึงทำให้งานนี้กลายเป็นอีเวนต์ใหญ่ประจำช่วงเทศกาลสงกรานต์ในประเทศไทยไปแล้ว ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-16 เมษายน 2566 ณ 2 สถานที่จัดงานใจกลางเมือง ทั้ง บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 22 เซ็นทาราแกรนด์ @ เซ็นทรัลเวิลด์ และ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน”
สำหรับการจัดงานครั้งนี้ใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นเวทีที่มีความอลังการ ตระการตาไปกับแสง สี เสียง จอแอลอีดี วิชวลเอฟเฟกต์ต่าง ๆ และเลเซอร์ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจจากทีมงานระดับมืออาชีพ หรือจะเป็นไลน์อัพดีเจชื่อดังระดับโลก อีกทั้งทีมโกโกบอยจาก 8 ประเทศในเอเชีย ทั้งเซี่ยงไฮ้ ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เกาหลี และไทย รวมถึงทีมโกโกแบร์จาก 3 ประเทศในเอเชีย เกาหลี ญี่ปุ่น และไทย
ด้านนายทอม ตัน เซียง เกี๊ยบ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเซอร์คิท จำกัด กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้จะถูกจัดขึ้นทั้งหมด 4 วัน 6 ปาร์ตี้ แบ่งเป็น 4 ปาร์ตี้ กับ 4 ธีมในแต่ละวันที่ไม่ซ้ำ ทั้ง Neon Metropolis, Superheroes vs Supervillians, Space Opera และ 50 Shades of Gay ที่จะจัดขึ้นที่เซ็นทาราแกรนด์ และอีก 2 พูลปาร์ตี้ในช่วงเวลากลางวัน ซึ่งจะจัดขึ้นที่สระว่ายน้ำของโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน
ที่สำคัญการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ในครั้งนี้เป็นเหมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติให้มาเยือนกรุงเทพฯ และช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวกรุงเทพฯ ให้กลับมาเติบโตอย่างสดใสได้อีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นการจัดงานนี้ยังสอดรับกับการจัดงาน INTERNATIONAL AMAZING SPLASH 2023 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อีกด้วย คาดตลอดการจัดงาน 4 วันจะมีเงินสะพัดกว่า 200 ล้านบาท โรงแรม และที่พักใกล้กับสถานที่จัดงานถูกจองไปแล้วถึง 90%