กองทัพเรือ (ทร.) จัดพิธีต้อนรับ “เรือหลวงช้าง” อย่างยิ่งใหญ่วานนี้ (25 เม.ย.) โดยพลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานในพิธี หลังจากที่เรือหลวงช้าง เรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบก ลำใหม่ของกองทัพเรือที่สั่งต่อจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เดินทางมาถึง ณ ท่าเรือจุกเสม็ดฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
พล.ร.อ.เชิงชาย เชิงชมแพทย์ ผบ.ทร. เปิดเผยว่า กองทัพเรือดำเนินการจัดหาเรือหลวงช้างเข้าประจำการเพื่อรองรับภารกิจในการป้องกันรักษาอธิปไตยและการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ด้วยการปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบกและสนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำตลอดจนถึงการช่วยเหลือประชาชนบรรเทาสาธารณภัยพิบัติต่างๆ นับเป็นการพัฒนากำลังรบที่สำคัญของกองทัพเรือ
ที่มาของชื่ออันเป็นมหามงคล
ตามระเบียบของกองทัพเรือนั้น ได้กำหนดหลักเกณฑ์การตั้งชื่อเรือรบ ตามประเภทของเรือ โดยในส่วนของเรือยกพลขึ้นบก กำหนดให้ตั้งชื่อตามเกาะต่าง ๆ ในประเทศไทย
สำหรับเรือยกพลขึ้นบกลำใหม่ขนาดใหญ่ที่สุดนี้ ได้รับพระราชทานชื่อจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯว่า “เรือหลวงช้าง” (มาจากชื่อเกาะช้าง จ.ตราด)
ทั้งนี้ เรือหลวงช้าง เป็นเรือประเภทอเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่สนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำ มีกำลังพลประจำเรือจำนวนทั้งสิ้น 196 นาย ปัจจุบันมี นาวาเอก ธีรสาร คงมั่น เป็นผู้บังคับการเรือ
คุณลักษณะที่สำคัญ
คุณลักษณะที่สำคัญของเรือหลวงช้าง คือมีความยาวตลอดลำ 210 เมตร ความกว้าง 28 เมตร กินน้ำลึก 7 เมตร ระวางขับน้ำ 25,000 ตัน ทำให้เรือลำดังกล่าวเป็นเรือมีขนาด “ใหญ่ที่สุด” ของกองทัพเรือไทย (แทนที่แชมป์เก่าคือเรือหลวงจักรีนฤเบศร ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ ที่ทร.จัดซื้อจากสเปนและมีระวางขับน้ำ 11,544 ตัน)
เรือหลวงช้าง ใช้งบประมาณในการจัดซื้อ 6,100 ล้านบาท ทำความเร็วสูงสุดได้ 25 น็อต มีองค์ประกอบอื่นๆ ได้แก่
เมื่อเข้าประจำการในกองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ กองเรือยุทธการแล้ว เรือหลวงช้าง จะมี ภารกิจหลัก ในการปฏิบัติการยุทธสะเทินน้ำสะเทินบก การขนส่งและลำเลียง อีกทั้งเป็นเรือบัญชาการโดยมี ภารกิจรองในการสนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำ อาทิ การช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัย (HADR) การอพยพประชาชน การสนับสนุนการป้องกันและต่อต้านการก่อการร้ายในทะเลและท่าเรือ เป็นต้น
ทั้งนี้ ด้วยขีดความสามารถของเรือหลวงช้างลำนี้ จะเพิ่มศักยภาพให้กองทัพเรือในการปฏิบัติภารกิจของประเทศได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นเรืออเนกประสงค์ สามารถปฏิบัติภารกิจหลักที่หลากหลาย อีกทั้งด้วยความที่เป็นเรือยกพลขนาดใหญ่ ทำให้สามารถปฏิบัติการในช่วงที่คลื่นลมแรงได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ฝึกการใช้เรือ เพราะมีฐานในการจอดเฮลิคอปเตอร์ถึง 3 ลำ
ลำใหญ่แต่ประหยัดเชื้อเพลิง
แม้เรือหลวงช้างเป็นเรือใหญ่ แต่เมื่อออกไปปฎิบัติภารกิจตามปกติจะใช้ความเร็วมัธยัสถ์ในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงหากไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน เรือหลวงช้างมีความเร็วสูงสุด 25 น็อตแต่ความเร็วมัธยัสถ์ 18 น็อต ถ้าเดินเรือด้วยความเร็ว 12 น็อตก็จะใช้น้ำมันไม่มากนัก อาจจะเทียบเท่ากับเรือจักรีนฤเบศหรือเรือหลวงอ่างทองที่มีอยู่
ในอนาคต ทร. ยังมีแผนติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆเพิ่มเติมเสริมศักยภาพให้กับเรือหลวงช้าง เช่น ระบบอาวุธ ปืนหลัก ปืนรอง ศูนย์ยุทธการ ระบบตรวจการณ์เรดาร์อากาศ และเรดาร์การควบคุมบังคับบัญชาของเรือผิวน้ำ รวมถึงห้องยุทธการ เป็นต้น โดยจะทำการว่าจ้างบริษัทมาติดตั้งระบบต่าง ๆ ทั้งนี้ กองทัพเรือได้ตั้งงบประมาณในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ 2567 วงเงิน 950 ล้านบาท ซึ่งผ่านคณะรัฐมนตรีและรอสภาฯใหม่พิจารณาเป็นลำดับต่อไป
ขอบคุณภาพจาก เพจกองทัพเรือ Royal Thai Navy