จากกรณีมีการแจ้งว่ามีการลักลอบนำเข้าเพื่อจำหน่าบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ สน.โคกครามนั้น กรมควบคุมโรค โดยกองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวนั้น
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค มอบหมายให้ นพ.ชยนันท์ สิทธิบุศย์ ผู้อำนวยการกองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ (กคส.) พร้อมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อจับกุมร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าว
หลังพบมีการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมากจากต่างประเทศโดยนำมาโฆษณาและขายผ่านช่องทางออนไลน์คิดเป็นมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท
ด้าน นพ.ชยนันท์ กล่าวว่า ผลจากการปฏิบัติการครั้งนี้ พบร้านค้าลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ในพื้นที่ สน.โคกคราม จำนวนกว่า 4 แห่ง โดยมีมูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาทซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้
กคส. ร่วมกับ สคบ.ได้ดำเนินการตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 ลงวันที่ 28 มกราคม 2558 เรื่อง ห้ามขาย หรือห้ามให้บริการ บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้าหรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้าในการตรวจอายัดและยึดไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ขายต่อไป
นพ.ชยนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้ามีการปรับรูปลักษณ์ให้เข้าถึงกลุ่มเยาวชนเพื่อจูงใจให้เกิดการลองสูบบุหรี่ไฟฟ้าโดยมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนถึงโทษ พิษ ภัย ที่ส่งผลให้มีผลกระทบกับสุขภาพได้
วอนประชาชนอย่าหลงเชื่อหรือตกเป็นเหยื่อโฆษณาที่ว่า "บุหรี่ไฟฟ้า" เป็นสินค้าทางเลือกที่สูบแล้วดีต่อสุขภาพและขอย้ำว่า ประเทศไทยห้ามขายและห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้ารวมถึงน้ำยาเติม
หากพบเห็นการขายบุหรี่ไฟฟ้า บารากู่ไฟฟ้า รวมถึงน้ำยาเติม สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โทร.1166 ในวันและเวลาราชการ ร่วมกันปกป้องเยาวชนไทย บุหรี่ไฟฟ้ามีสารพิษ เสพติดอันตราย