ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 66 เวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุโรงงานโกดังเก็บพลุ-ดอกไม้ไฟ ในพื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เกิดเหตุระเบิด มีผู้บาดเจ็บหลายราย เจ้าหน้าที่เร่งเข้าพื้นที่
เบื้องต้น นายอนิรุทร บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงโก-ลก ได้แจ้งให้รถดับเพลิงจากทุกตำบลเข้าไปช่วยดับเพลิงแล้ว และไทยมุงห้ามเข้าพื้นที่ทุกกรณี เพราะอันตรายและกีดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
จากนั้นเวลา 16.45 น. เจ้าหน้าที่รายงานความเสียหาย ว่าเบื้องต้นบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 17 หลัง มีผู้บาดเจ็บ 7 ราย เสียชีวิต 2 ราย อยู่ระหว่างช่วยเหลือ
เวลา 17.30 น. ความคืบหน้าล่าสุดได้รับแจ้งว่า มีผู้ติดอยู่ภายในบ้านโดยยังไม่ทราบจำนวน และยังไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้เนื่องจากเสียงประทัดยังปะทุต่อเนื่อง และมีประทัดยักษ์ระเบิด 1 ลูกขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุ จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้น ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องวางแผนในการเข้าพื้นที่เพื่อความปลอดภัยของชุดกู้ภัย และผู้ที่ยังติดอยู่ภายในบ้านเรือน เบื้องต้นได้รับรายงานมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 90 ราย และเสียชีวิต 4 ราย
เวลา 19.12 น. ความคืบหน้าล่าสุดได้รับแจ้งว่า ล่าสุดเสียชีวิต 7 บาดเจ็บกว่า100 ราย
ต่อมาวันที่ 30 ก.ค. 66 เวลา 07.00 น. สรุปความเสียหาย ดังนี้
ต่อมาวันที่ 30 ก.ค. 66 เมื่อเวลา 11.00 น. สรุปความเสียหายเพิ่มเติม ดังนี้
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุโกดังเก็บประทัดในตลาดมูโนะครั้งนี้ ถือว่ามีความรุนแรงมากเพราะแรงระเบิดส่งผลให้ตลาดมูโนะ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการจำหน่ายสินค้าชายแดนแหล่งใหญ่ที่สุดของอำเภอสุไหงโก-ลกได้รับความเสียหายบ้านเรือนและร้านค้าถูกแรงระเบิดจนกลายเป็นเศษซากปรักหักพัง เป็นที่เศร้าสลดของประชาชนในพื้นที่ หลังจากเพิ่งฟื้นตัวจากอุทกภัยครั้งใหญ่ช่วงปลายปี 2565
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 66 เกิดเหตุเพลิงไหม้และระเบิดภายในโรงเก็บประทัด พื้นที่ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส
ทั้งนี้ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการในทุกมิติแล้ว โดยจังหวัดนราธิวาสจัดเตรียมสถานที่รับผู้อพยพที่อาคารสนามกีฬา อบต.มูโนะ พร้อมเครื่องนอน มีการจัดตั้งโรงครัวพระราชทานประกอบอาหารแจกจ่ายแก่ผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งในจุดรับอพยพได้จัดเตรียมแพทย์และพยาบาลด้านจิตเวชคอยพูดคุยทำความเข้าใจให้ผู้ได้รับผลกระทบผ่อนคลาย พร้อมจัดตั้งจุดรับแจ้งความเสียหายบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุและมีการเตรียมพร้อมแพทย์ เตรียมพร้อมโรงพยาบาลใกล้เคียงสำหรับรับผู้ป่วยเล็กน้อย อีกทั้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้เข้ามาตัดไฟในจุดเกิดเหตุและข้างเคียง พร้อมจัดรถส่องสว่างในจุดเกิดเหตุแล้ว
“นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่อย่างมาก และได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อีกทั้งได้เน้นย้ำทุกฝ่ายต้องให้การดูแลผู้บาดเจ็บและผู้ได้รับผลกระทบอย่างดีที่สุด” นางสาวรัชดาฯ กล่าว