วันที่ 3 สิงหาคม 2566 ที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 นายไพโรจน์ ศรีละมุล นายอำเภอเมืองภูเก็ต พร้อมด้วยพ.ต.อ.ประเทือง ผลมานะ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต, นายอดูลย์ ระลึกมูล ตำแหน่ง เจ้าพนักงานตรวจเรือชำนาญการ /เจ้าหน้าที่ จภ.5(ภก.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว และสื่อมวลชนร่วมชี้แจงและพูดคุย
กรณีเรือสปีดโบ๊ตแล่นฝ่าคลื่นยักษ์จากเกาะพีพี จ.กระบี่ มายัง จ.ภูเก็ต โดยไกด์นำเที่ยวที่อยู่บนเรือสปีดโบ๊ตถ่ายคลิปเอาไว้ขณะโดยสารเรือฝ่าคลื่นลมแรง ซึ่งมีนักท่องเที่ยวที่อยู่ในเรือบางส่วนไม่ได้สวมเสื้อชูชีพ ทำให้หลายคนที่เห็นคลิปนี้ในสื่อออนไลน์แสดงความเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย
นายจิรทีปต์ ประโมงกิจ กัปตันเรือณัฐทิชา 555 กล่าวว่าก่อนเดินทางได้มีการตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนเดินทางแล้ว แต่ด้วยสถานการณ์ในขณะนั้นทำให้เกิดคลื่นลมแรง จึงตัดสินใจขับเรือนำผู้โดยสารเพื่อกลับเข้าสู่ฝั่งให้ปลอดภัยโดยเร็ว
ขณะที่ นายอดูลย์ ระลึกมูล ตำแหน่ง เจ้าพนักงานตรวจเรือชำนาญการ เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเรือทั้ง 2 ลำดังกล่าว พบว่า ตัวและเครื่องจักรยนต์มีสภาพพร้อมใช้งานตามที่ระบุในใบอนุญาตใช้เรือ
หลังจากนี้จะเก็บข้อมูล เเละรับฟังความเป็นธรรมของทุกฝ่าย เเต่จะพิจารณาว่าจะเข้าข่ายตาม มาตรา 291 หรือไม่ หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือข้อบังคับเกี่ยวแก่การเดินเรือหรือหน้าที่ของตน ให้เจ้าท่า ฯมีอำนาจที่จะสั่งงดไม่ให้ใช้ประกาศนียบัตรหรือใบอนุญาตมีกำหนดไม่เกินสองปี โดยจะพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
เน้นย้ำขอให้ติดตามประกาศของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต และให้ผู้ประกอบการกวดขันเพื่อรักษาตามมาตรการความปลอดภัยในช่วงมรสุมนี้ และขอให้นายเรือและผู้ควบคุมเรือเพิ่มความระมัดระวังเดินเรือ หลีกเลี่ยงการเดินเรือห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ควรงดออกจากฝั่ง และเรือที่มีขนาดความยาวน้อยกว่า 10 เมตรห้ามออกจากฝั่งไปยังทะเลเปิด หากเกิดเหตุสามารถโทรแจ้งสายด่วน 1199
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ วันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา ปรากฎภาพเรือสปีดโบ๊ท ณัซทิชา 555 ฝ่าคลื่นลมแรง ระหว่างกลับจากเกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เพื่อกลับมายังท่าเทียบเรือในจังหวัดภูเก็ต โดยมีเรือสปีดโบ๊ทอีกลำได้บันทึกภาพเคลื่อนไหวและพบว่า มีนักท่องเที่ยวที่มากับเรือบางส่วนไม่สวมเสื้อชูชีพ จากการสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นเข้าลักษณะของการกระทำความผิดของผู้ควบคุมเรือ เข้าข่ายตาม มาตรา 291วรรคแรก
มีสาระสำคัญคือ ผู้นำร่อง นายเรือ ต้นหน สรั่ง ไต้ก๋ง นายท้าย คนถือท้าย ต้นกล หรือคนใช้เครื่องที่ได้รับประกาศนียบัตรหรือใบอนุญาตผู้ใดหย่อนความสามารถ หรือประพฤติไม่สมควรแก่หน้าที่ ละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือข้อบังคับเกี่ยวแก่การเดินเรือหรือหน้าที่ของตน
ให้เจ้าท่ามีอำนาจที่จะสั่งงดไม่ให้ใช้ประกาศนียบัตรหรือใบอนุญาตมีกำหนดไม่เกินสองปี แต่ไม่เป็นการลบล้างโทษอย่างอื่นซึ่งผู้นั้นจะพึงได้รับโดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งนัดหมายเชิญผู้ควบคุมเรือและผู้เกี่ยวข้องฯ เข้าไปให้ถ้อยคำและชี้แจ้งรายละเอียดข้อเท็จจริง เพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
กำพล ฝอยทอง : รายงาน