อุตุ ประกาศฉบับที่ 2 "พายุดีเปรสชัน"ก่อตัว เตือนพื้นที่ฝนตกหนัก 26 -29 ก.ย.นี้

25 ก.ย. 2566 | 00:39 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ย. 2566 | 00:40 น.

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนฉบับที่ 2 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงทวีกำลังเป็น"พายุดีเปรสชัน" ฝนตกหนัก-บางแห่ง บริเวณภาคเหนือ อีสาน ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีผลกระทบตั้งแต่ 26 - 29 ก.ย.66

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 2 เรื่อง "พายุดีเปรสชัน" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ฉบับที่ 2 มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 26 - 29 กันยายน 2566 โดยระบุว่า

เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันนี้ (25 ก.ย. 2566) หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ได้ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 15.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้าๆ คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 25 - 26 กันยายน 2566 นี้ และจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกตอากาศต่ำกำลังแรงต่อไป

จากนั้นจะเคลื่อนผ่านประเทศไทยตอนบนตามแนวร่องมรสุมในช่วงวันที่ 26 - 29 กันยายน 2566 ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งในบริเวณภาคเหนื่อ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้

 

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทย ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และลมกระโชกแรงบางแห่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำบำไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และหลีกเสี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ตันไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย

 

อุตุ ประกาศฉบับที่ 2 \"พายุดีเปรสชัน\"ก่อตัว เตือนพื้นที่ฝนตกหนัก 26 -29 ก.ย.นี้

จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้

วันที่ 26 กันยายน 2566

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคตะวันออก: จังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ตรัง และสตูล

วันที่ 27 กันยายน 2566

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น กาพสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นตรราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบศีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

 

วันที่ 28-29 กันยายน 2566

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา และภูเก็ต

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณทีมีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรื่อด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรื่อในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบน ควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 26 - 29 กันยายน 2566

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจาก กรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ประกาศ ณ วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2566 เวลา 05.00 น.

กรมอุตุนิยมวิทยา จะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2566 เวลา 17.00 น.