สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และพบว่ามีร่องมรสุมทำให้เกิดฝนตกหนักสะสมทั้งประเทศไทย ทำให้มีปริมาณน้ำในลำน้ำเพิ่มมากขึ้น โดยคาดการณ์ในช่วงวันที่ 8 – 11 ตุลาคม 2566 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ทั้งนี้ สทนช. ได้วิเคราะห์คาดการณ์จะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ล้นตลิ่งบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำ โดยมี พื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวัง ในช่วงวันที่ 9 – 15 ตุลาคม 2566 ดังนี้
1.1 ภาคเหนือ
1.2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
1.3 ภาคกลาง
1.4 ภาคตะวันออก
1.5 ภาคใต้
2.1 แม่น้ำมูล ได้แก่
ทั้งนี้การบริหารจัดการในพื้นที่ลุ่มน้ำชี และลุ่มน้ำมูล ได้บริหารจัดการโดยคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีการประชุมบูรณาการข้อมูล เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเกิดประโยชน์สูงสุด โดยเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งให้ได้มากที่สุด และการระบายน้ำให้เกิดผลกระทบกับพี่น้องประชาชนให้น้อยที่สุด
2.2 แม่น้ำเจ้าพระยา
ทั้งนี้การบริหารจัดการในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้บริหารจัดการโดยคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง ซึ่งมีการประชุมบูรณาการข้อมูลเพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเกิดประโยชน์สูงสุด โดยเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งให้ได้มากที่สุด และการระบายน้ำให้เกิดผลกระทบกับพี่น้องประชาชนให้น้อยที่สุด
2.3 แม่น้ำท่าจีน ได้แก่
2.4 แม่น้ำปราจีนบุรี ได้แก่
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขอ เตือนประชาชนเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ และขอให้ติดตามการแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ จากส่วนราชการอย่างใกล้ชิด เตรียมพร้อมขนของขึ้นสู่บริเวณที่สูงหรืออพยพทันที หากได้รับการแจ้งเตือน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
"จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดยโสธร ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ทุกส่วนราชการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์น้ำอย่างเต็มที่ ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำ ทั้งในส่วนของน้ำท่วม และการกักเก็บน้ำเพื่อการเกษตร นายกรัฐมนตรีย้ำ รัฐบาลจะไม่ปล่อยให้ปัญหาเกิดขึ้นซ้ำซากไปเรื่อยๆ ทุกหน่วยงานจะต้องปรับเปลี่ยนแนวคิด ทำให้ไม่เกิดน้ำท่วม หรือเกิดให้น้อยที่สุด"