เตือน 6 จว.อีสานพร้อมรับมือเขื่อนอุบลรัตน์ระบายน้ำเพิ่ม

วันที่ 16 ตุลาคม 2566 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือนเขื่อนอุบลรัตน์ระบายน้ำเพิ่ม พร้อมกำชับ 6 จังหวัดท้ายเขื่อนอุบลรัตน์ – ขอนแก่น หนองบัวลำภู มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร และพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำชี แจ้งเตือน ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด  

โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามระดับน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ ประกอบกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้มีหนังสือ ที่ กฝผ. S40108/73695 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2566 แจ้งว่า เนื่องจากสถานการณ์ฝนตกหนักบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกือบตลอดช่วงเดือนกันยายนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำชี-มูล และเขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลเข้าสู่เขื่อนอุบลรัตน์มากถึง 1,796 ล้านลูกบาศก์เมตรส่งผลทำให้ปริมาณน้ำเก็บกักในเขื่อนอุบลรัตน์เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกในช่วงวันที่ 18 - 20 ตุลาคม 2566 

ดังนั้น เพื่อควบคุมปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมและรักษาเสถียรภาพความมั่นคงของตัวเขื่อน จึงมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำ ซึ่งจะทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนอุบลรัตน์มีระดับน้ำสูงขึ้น และอาจกระทบกับพื้นที่ลุ่มต่ำในพื้นที่ ดังนี้

• จังหวัดขอนแก่น รวม 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภออุบลรัตน์ น้ำพอง เมืองขอนแก่น หนองนาคำ ภูเวียง และหนองเรือ จังหวัดหนองบัวลำภู รวม 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโนนสัง และศรีบุญเรือง และทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำที่น้ำท่วมในปัจจุบันจะมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก รวมถึงอาจส่งผลกับพนังกั้นน้ำริมแม่น้ำชี ตั้งแต่จังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และจังหวัดยโสธร

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) จึงได้ประสาน 6 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น หนองบัวลำภู มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และยโสธร เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำที่มีน้ำท่วมในปัจจุบัน พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำ จุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชนที่ประกอบกิจการในแม่น้ำ ให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ รวมถึงเตรียมพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นจากแนวน้ำท่วม
 

นอกจากนี้ ให้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำและแนวป้องกันน้ำท่วมให้มีความแข็งแรง เพื่อป้องกันระดับน้ำล้นข้ามแนวคันกั้นน้ำ อีกทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เพื่อเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ติดตามข้อมูลระดับน้ำ สถานการณ์ ประกาศแจ้งเตือนจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้  ทั้งนี้ประชาชนสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” และหากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง