ภาพยนตร์ "สัปเหร่อ" กำลังเป็นกระแสปลุกคนไทยเข้าโรงหนัง จนรายได้ทะลุ 500 ล้านบาท ทำเอารัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน โหนกระแสด้วยการ นำมาสนับสนุน "นโยบายซอฟท์พาวเวอร์" ผลักดันหนังไทยสู่ระดับโลก
ถึงขั้นกับจองโรงภาพยนต์ในสยามพารากอน นำครม.บางส่วนยกทีมร่วมเข้าชมหนังสัปเหร่อไปเมื่อ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา
แน่นอนว่าจากความสำเร็จของภาพยนตร์สัปเหร่อที่เดินหน้าโกยรายได้ ยังทำให้รู้จักผู้กำกับ "ต้องเต-ธิติ ศรีนวล" และทีมนักแสดงของอาณาจักรไทบ้าน
และยังทำให้เห็นอีกมุมของ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ หรือ "เสี่ยโต้ง" อดีตส.ส.ศรีสะเกษ ที่ปัจจุบันเป็นโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ ที่เขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังหนังสัปเหร่อ ในฐานะผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์
จากการให้ทุนตั้งต้นสนับสนุนกองถ่ายหนังสัปเหร่อไปจำนวน 2 ล้านบาท
ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายสิริพงศ์ กับ "สำนักงานป.ป.ช." พบข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2566 ซึ่งเป็นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นกรณีพ้นจากตำแหน่งส.ส.เมื่อ 20 มีนาคม 2566 พบข้อมูลดังนี้
ทรัพย์สิน
หนี้สิน
ทั้งนี้เจาะข้อมูลดูเฉพาะทรัพย์สินและหนี้สินเฉพาะของเสี่ยโต้ง-สิริพงศ์ พบข้อมูล ดังนี้
ทรัพย์สิน
หนี้สิน
ชื่อเล่น โต้ง เกิดวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2519 ปัจจุบันอายุ 47 ปี เกิดที่ตำบลเมืองเหนือ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นบุตรของนายฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองศรีสะเกษ และนางสกุลทิพย์ อังคสกุลเกียรติ
สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษา จากโรงเรียนมารีวิทยา ศรีสะเกษ มัธยมศึกษา จากโรงเรียน ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ปริญญาตรี จากวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต, ปริญญาโท จากสาขาการจัดการระบบสารสนเทศ (MIS) มหาวิทยาลัยโคโลราโด เดนเวอร์ สหรัฐอเมริกา (United States of America) และปริญญาเอก คณะเกษตร จากสาขาเกษตรเขตร้อน (หลักสูตรนานาชาติ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
แต่เดิมครอบครัวทำอาชีพโรงสีไฟ แต่ต่อมาประสบภาวะขาดทุน จึงหันมาประกอบธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้าง จำหน่ายคอนกรีตผสมเสร็จ รายเดียวในจังหวัดศรีสะเกษ กิจการเติบโตตามลำดับ ครอบครัวมีฐานะดีขึ้น ก่อนที่บิดาจะสนับสนุนให้สิริพงศ์เรียนทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยรังสิต
หลังเรียนจบ สิริพงศ์ทำงานที่บริษัทที่ปรึกษาออกแบบถนนของกรมทางหลวงชนบท และกรมโยธาธิการ ก่อนตัดสินใจไปเรียนปริญญาโทที่ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังเรียนจบ กลับมาสานต่อโครงการบ้านจัดสรรของครอบครัวในจังหวัดศรีสะเกษ กระทั่งปิดโครงการสำเร็จ
บิดาจึงนำกำไรมาซื้อที่ดินอีกแปลงหนึ่งให้เป็นสมบัติเพื่อต่อยอดธุรกิจ จึงได้ก่อตั้ง ห้างหุ้นส่วนจำกัด สิริมงคลพร๊อพเพอร์ตี้ ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยว ทั้งหมด 7 โครงการ รวมกว่า 1 พันยูนิตในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ รวมทั้งทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์ ก่อนขยายธุรกิจบ้านจัดสรรไปยังพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี
นอกจากนี้ สิริพงศ์ยังเคยทำธุรกิจอื่นอีก อาทิ โรงเรียนกวดวิชา ธุรกิจรถนำเข้า ร้านอาหารญี่ปุ่น ธุรกิจเฟรนส์ไชส์ ร้านกาแฟ รวมทั้งเป็นนายทุนให้กับ ไทบ้าน เดอะซีรีส์ และภาคต่อของภาพยนตร์ดังกล่าว
งานการเมือง
นายสิริพงศ์ก้าวสู่การเมือง เป็น ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคชาติไทย เมื่อปี 2550 และเป็นกรรมการบริหารพรรคชาติไทย แต่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2551 (บ้านเลขที่ 109) กระทั่งพ้นกำหนดเวลาถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง จึงได้เข้าสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนาและเคยถูกวางตัวเป็นเลขาธิการพรรค
ต่อมานายสิริพงศ์ก็ย้ายสังกัดมาอยู่พรรคภูมิใจไทย ก่อนที่จะลงสมัคร ส.ส. ศรีสะเกษ เขต 1 พรรคภูมิใจไทย ชนะนายธเนศ เครือรัตน์ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย กว่า 9.6 พันคะแนน เป็น ส.ส. สมัยที่ 2 ได้เป็นผลสำเร็จ
นายสิริพงศ์ ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว 2 สมัย คือ ปี พ.ศ. 2550 จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดพรรคชาติไทย และพ.ศ. 2562 จังหวัดศรีสะเกษ สังกัด พรรคภูมิใจไทย
ที่มาข้อมูล : สำนักงานป.ป.ช.