นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 ได้มีมติอนุมัติให้กระทรวงคมนาคม ดำเนินมาตรการเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางแก่ประชาชน ซึ่งในระยะแรกได้เริ่มดำเนินการในส่วนของรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - สถานีรังสิต และ ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์–สถานีตลิ่งชัน และรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงคลองบางไผ่ - เตาปูน สูงสุด 20 บาท ตลอดสาย
ทั้งนี้ได้เพิ่มการอำนวยความสะดวก และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางแก่ประชาชน โดยตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป จะเริ่มคิดค่าโดยสารกับผู้ที่เดินทางเชื่อมต่อระหว่างรถไฟชานเมืองสายสีแดงกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่สถานีบางซ่อน และชำระค่าโดยสารผ่านทางบัตร EMV (Europay, MasterCard, VISA) หรือบัตรเครดิต และบัตรเดบิตที่เข้าร่วมในอัตรารวมกันสูงสุดไม่เกิน 20 บาทต่อเที่ยว
“วันนี้ถือเป็นวันแรกที่สามารถใช้บัตร EMV เชื่อมข้ามระบบรถไฟสายสีแดงและรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยตั้งเป้าผู้โดยสารใช้บริการรถไฟฟ้าประมาณ 100,000 คนต่อวัน ซึ่งจะทำให้ถึงจุดคุ้มทุนและเพียงพอต่อค่าใช้จ่าย โดยที่ภาครัฐไม่ต้องชดเชยรายได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้โดยสารที่มาใช้บริการด้วย”
ที่ผ่านมาตามมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสาย ระยะที่ 1 สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางในระบบรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง จ่ายสูงสุดไม่เกิน 20 บาท และผู้โดยสารที่เดินทางในระบบรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดง จ่ายสูงสุดไม่เกิน 20 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2566 พบว่า ได้รับการตอบรับที่ดีจากภาคประชาชนที่เป็นผู้ใช้บริการของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย ในส่วนของรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7,824 คน คิดเป็น 13.73% และรถไฟชานเมือง สายสีแดง มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4,465 คน คิดเป็น 20.64%
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันผู้ที่ใช้บัตร EMV Contactless นี้ในการเดินทางข้ามระบบระหว่างรถไฟฟ้า MRT ทุกสายในความรับผิดชอบของ รฟม. ได้แก่ สายสีม่วง - สายสีน้ำเงิน - สายสีเหลือง รวมถึงสายสีชมพูที่กำลังจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเชิงพาณิชย์ช่วงต้นปี 2567 นี้ ยังจะได้รับสิทธิส่วนลดการเปลี่ยนถ่ายระบบอีกด้วย
นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมยังมอบโจทย์สำคัญให้กรมการขนส่งทางราง (ขร.) เป็นเจ้าภาพร่วมกับหน่วยงานผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ในการศึกษาแนวทางและจัดทำข้อเสนอแนะในเชิงนโยบายที่เหมาะสมสำหรับการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าในระยะต่อๆ ไป ที่สามารถสานต่อนโยบายดังกล่าวได้ และต้องอยู่บนพื้นฐานที่ไม่เป็นภาระทางการเงินของหน่วยงานภาครัฐในอนาคต ควบคู่ไปกับการจัดทำแผนเพิ่มประสิทธิภาพในการหารายได้เพิ่มเติมของหน่วยงานภาครัฐ ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะต้องเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนผู้ใช้บริการ
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า ปัจจุบันรถไฟฟ้า MRT ทุกสายในความรับผิดชอบของ รฟม. ที่เปิดให้บริการแก่ประชาชนแล้ว ครอบคลุมทั้งรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง และสายสีน้ำเงิน ที่มีบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) เป็นผู้รับสัมปทานในการเดินรถ และรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง และสายสีชมพู ที่มีบริษัท อีสเทิร์น บางกอก โมโนเรล จำกัด (EBM) และบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) เป็นผู้รับสัมปทานในการเดินรถ ให้สามารถรองรับการชำระค่าโดยสารด้วยบัตร EMV Contactless ได้ทั้งหมด โดยผู้ที่เดินทางข้ามระบบในระหว่างรถไฟฟ้า MRT ทั้ง 4 สายนี้ ด้วยบัตร EMV Contactless ใบเดียวกัน และเปลี่ยนถ่ายระบบภายในเวลา 30 นาที จะจ่ายค่าแรกเข้าระบบเพียงครั้งเดียว โดยคิดจากค่าแรกเข้าหรือค่าโดยสารเริ่มต้นของรถไฟฟ้า MRT สายแรกที่ท่านเริ่มเดินทางเท่านั้น
“รฟม. มองว่า EMV เป็นระบบเปิดที่มีความยืดหยุ่นในการปรับตัวตามแนวทางการกำหนดอัตราค่าโดยสารแบบใหม่ๆ ในอนาคตได้เป็นอย่างดี และเป็นมิตรต่อทั้งต่อผู้ใช้บริการชาวไทย และต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาใช้บริการระบบรถไฟฟ้า MRT เนื่องจากคนจำนวนมากพกบัตรเครดิตวีซ่า (VISA) หรือมาสเตอร์การ์ด (Mastercard) ที่มีสัญลักษณ์ Contactless Payment อยู่แล้ว ซึ่งสามารถใช้เป็นบัตร EMV Contactless ในการแตะเข้า - ออก ระบบรถไฟฟ้า MRT ได้ทันที”
สำหรับมีรายละเอียดของการคิดอัตราค่าโดยสารและการใช้บัตร ดังนี้
1. อัตราค่าโดยสาร กรณีเดินทางข้ามสายระหว่างรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง และรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง สูงสุดไม่เกิน 20 บาท เริ่มให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-24.00 น.
2. ผู้โดยสารที่เดินทางข้ามสายผ่านระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ต้องใช้ Gate EMV ด้วยบัตรเครดิตMaster Card และ Visa Card ของทุกธนาคาร หรือบัตรเดบิต Master Card และ Visa Card ของธนาคารกรุงไทย และธนาคารยูโอบี โดยไม่รับเงินสด หรือระบบตั๋วโดยสารที่ไม่ใช่ ระบบ Gate EMV
3. การเดินทางเชื่อมต่อระหว่างระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง กับรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง จะต้องเปลี่ยนสถานีที่ สถานีบางซ่อน เท่านั้น
4. ผู้โดยสารที่เดินทางข้ามสายระหว่างระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง กับรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง จะต้องเดินทางข้ามระบบภายใน 30 นาที และใช้บัตรใบเดียวกัน หากเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนด จะคิดตามอัตราค่าโดยสารสูงสุดคือ 42 บาท
นอกจากนี้ผู้โดยสารควรมีเงินสำรองภายในบัตร ไม่ต่ำกว่า 40 บาท เพื่อรองรับการเรียกเก็บอัตราค่าโดยสารผ่านบัตร EMV Contactless จากทางธนาคาร โดยหากการเดินทางเข้าเงื่อนไขตามนโยบายอัตราค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 20 บาท ธนาคารจะดำเนินการ Cash Back กลับเข้าบัตรให้ภายใน 3 วัน
อย่างไรก็ตามการดำเนินนโยบายดังกล่าวจะช่วยลดภาระค่าครองชีพในการเดินทางแก่ประชาชนได้เป็นอย่างมาก จากเดิมจะเสียค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุดถึงสายละ 42 บาท อีกทั้งต้องเสียค่าแรกเข้าเมื่อมีการเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้าสายใหม่ แต่เมื่อมีการเชื่อมต่อการเดินทางของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายเข้าด้วยกัน จะคิดค่าโดยสารรวมกันสูงสุดที่ 20 บาทเท่านั้น จากราคาดังกล่าว นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชน ยังเป็นการส่งเสริมให้มีการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะให้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย