ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 66 นายวิทยา นีติธรรม โฆษกประจำสำนักงานศสํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 12/2566 เห็นชอบให้ยึดและอายัดทรัพย์สิน 20 คดี 769 รายการ มูลค่า 1,071 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนและการฉ้อโกง การยักยอกทรัพย์อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ 229 รายการ มูลค่าประมาณ 861 ล้านบาท
โดยหนึ่งในนั้นคือคดีที่ บริษัท วัน บ็อกซ์ โฮม จำกัด กับพวก ที่มีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญาและความผิดเกี่ยวกับการยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ กรณีไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญาร่วมผลิตและกระจายสินค้า
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเบียดบังกล่องสัญญาณดิจิทัลและอุปกรณ์ ซึ่งเหลือจากการที่ประชาชนนำคูปองไปแลก และนำเข้าระบบของสำนักงาน กสทช. ไม่คืนกล่องสัญญาณดิจิทัลทีวีและอุปกรณ์ แต่กลับนำไปขายทางอินเทอร์เน็ต
โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 23 รายการ (ที่ดิน กองทุน และเงินในบัญชีเงินฝาก) พร้อมดอกผลมูลค่าประมาณ 180 ล้านบาท (ย.252/2566)
ล่าสุดวันที่ 18 ธ.ค. 66 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคําร้องขอคุ้มครองสิทธิจากการกระทําความผิดมูลฐาน ลงนามโดยสมชัย พลายด้วง ผู้อํานวยการกองคดี 5 ปฏิบัติราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ตามประกาศพนักงานเจ้าหน้าที่ สํานักงาน ปปง. เรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคําร้องขอคุ้มครองสิทธิ จากการกระทําความผิดมูลฐาน ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 กําหนดให้ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน รายคดี บริษัท วัน บ็อกซ์ โฮม จํากัด กับพวก ยื่นคําร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดแห่งความเสียหาย และจํานวนความเสียหายที่ได้รับต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สํานักงาน ปปง. ภายใน 30 วัน (สามสิบวัน) นับแต่วันที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 134 ตอนพิเศษ 282 ง หน้า 34 วันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 นั้น
เนื่องจากได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายในความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2565 กําหนดให้สํานักงานป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงินประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อแจ้งให้ผู้เสียหายยื่นคําร้องพร้อมหลักฐาน แสดงรายละเอียดแห่งความเสียหายภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ดังนั้น อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 49/1 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2565
จึงขอให้บุคคลผู้ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทําความผิดมูลฐานในรายคดีดังกล่าวและไม่มีส่วนร่วม ในการกระทําความผิดนั้น ยื่นคําร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดแห่งความเสียหาย และจํานวน ความเสียหายที่ได้รับต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ภายใน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ทั้งนี้ รายละเอียดการยื่นคําร้องปรากฏ ตามเอกสารแนบท้ายประกาศนี้ (เอกสารแนบท้ายประกาศสามารถใช้รูปแบบเดิมได้ตามความเหมาะสมแก่กรณี)
อนึ่ง กรณีที่ผู้เสียหายได้ยื่นคําร้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ไว้แล้วตามประกาศพนักงานเจ้าหน้าที่ สํานักงาน ปปง. เรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคําร้องขอคุ้มครองสิทธิจากการกระทําความผิดมูลฐาน ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 ให้ถือเป็นการยื่นคําร้องตามประกาศนี้ โดยผู้เสียหายดังกล่าวไม่จําเป็น ต้องยื่นคําร้องใหม่แต่ประการใด
ประกาศ ณ วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2566
เอกสารแนบท้ายประกาศสํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
เรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคําร้องขอคุ้มครองสิทธิจากการกระทําความผิดมูลฐานหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นคําร้อง รายบริษัท วัน บ็อกซ์ โฮม จํากัด กับพวก (รายละเอียดด้านล่าง)
ที่มา : ราชกิจจานุเบกษา