วันนี้ (13 มกราคม 2567) ที่ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2567 พร้อมกล่าวให้โอวาทแก่เด็กและเยาวชน
โดย นายกรัฐมนตรีได้รับฟังการขับร้องเพลงประสานเสียง เพลง “อยากจะฟัง” ของเด็กและเยาวชน จากกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อีกทั้งยังได้รับชมการแสดงของเยาวชนทีม BLOC D JUNIOR จากสมาคมจิตอาสาพัฒนา
นายกฯ กล่าวให้โอวาทว่า สุขสันต์วันเด็ก เด็ก ๆ และเยาวชนทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง เด็กคือ ผู้กำหนดอนาคตของประเทศชาติของเรา ความปรารถนาสูงสุดของตนเองนั้น อยากให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้รับการส่งเสริมการเรียนรู้ ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อจะได้ใช้ความรู้ความสามารถนั้นให้เป็นประโยชน์ทั้งต่อการดำรงชีวิตในมิติทางเศรษฐกิจและมิติของการสร้างความสุขให้กับตัวเองและผู้อื่น
นายกฯ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลมุ่งมั่นส่งเสริมให้เด็กทุกคนเข้าถึงระบบการศึกษา โดยตั้งเป้าหมาย Zero Dropout คือ จะไม่มีเด็กและเยาวชนหลุดจากระบบการศึกษาในประเทศนี้ โดยรัฐบาลจะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เชื่อมโยงข้อมูลทะเบียนนักเรียนรายบุคคลที่หลุดออกจากระบบการศึกษาให้กลับเข้าสู่ระบบ
พร้อมทั้งจะส่งเสริมการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น เพิ่มทางเลือกให้ตรงตามความต้องการและวิถีชีวิตของผู้เรียน มุ่งเน้นการพัฒนาสมรรถนะ ทักษะอาชีพ และทักษะชีวิต เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนหลุดออกจากระบบการศึกษาซ้ำซาก
นายกฯ กล่าวว่า วันเด็กปีนี้ ได้มอบคำขวัญไว้ว่า “มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย” เพราะอยากให้เด็กสัมผัสถึงความรัก ความห่วงใย ความปรารถนาดีจากผู้ใหญ่ อยากให้เห็นโลกกว้าง รัฐบาลอยากเห็นเด็กมีชีวิตอยู่ด้วยความรัก ความเข้าใจในความแตกต่างของผู้คนที่อยู่ร่วมกันในสังคม
ท้ายที่สุดจะก่อรูปเป็นวัฒนธรรมประชาธิปไตยที่อยู่ร่วมกันบนฐานของความรัก ความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนร่วมชาติและเพื่อนมนุษย์ในโลก เป็นเด็กที่มีโลกทัศน์กว้างไกล เปิดรับเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตนอกเหนือจากในตำราเรียน
“ฝากถึงผู้ปกครองและคุณครู ต้องช่วยกันเสริมสร้างประสบการณ์และทักษะ เพื่อให้มีความพร้อมสำหรับการดำเนินชีวิตให้ทันโลก ทันสมัยแห่งปัจจุบัน รวมทั้งปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมอย่างเป็นสากล ซึ่งหมายถึงการเคารพในสิทธิเสรีภาพของกันและกัน เพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต”นายกฯ ระบุ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินเยี่ยมชมกิจกรรมสำหรับเด็กและเยาวชนจากหน่วยงานต่าง ๆ ภายใต้หัวข้อ “มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง และส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทย” เช่น กิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมและมารยาทไทย โดยกระทรวงวัฒนธรรม กิจกรรมส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา “บัวขาว บัญชาเมฆ สร้างแรงบันดาลใจ ถ่ายทอดมวยไทยสู่เยาวชน” โดยบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
กิจกรรม “อึกทึกคึกคักรักคาแรกเตอร์ไทย” ปล่อยพลังสร้างสรรค์ ร่วมออกแบบคาแรกเตอร์ไทย โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) (CEA) กิจกรรม “ท่องโลกสีรุ้ง” อ่านนิทาน เล่นบอร์ดเกมส์ โดยกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) มูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน เป็นต้น พร้อมทั้งร่วมถ่ายกับเด็กและเยาวชนอย่างเป็นกันเอง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้ทักทายเยาวชนผู้มีความสามารถและตัวแทนเด็กและเยาวชนผู้ด้อยโอกาส จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จำนวน 10 คน โดยนายกรัฐมนตรีได้นั่งถ่ายรูปร่วมกับเด็กและเยาวชน ทั้ง 10 คน ประกอบด้วย
นายบวรวิชญ์ รอดสา นางสาวศิศิรา ธัญญะพิสุทธิ์ เด็กชายวุฒิพงษ์ หนูวงษ์ นายพงศธร เจริญพินิช เด็กหญิงสิริวิมล พลชนะ นายปัญญาภัทร ว่องไว เด็กหญิงอิ่มบุญ คุ้มครอง นางสาวสุรีพร วัสศิริ เด็กหญิงพัธนันท์ พันธ์เดช และเด็กชายธนกร ลับฉิม
พร้อมทั้งได้พูดคุยกับเด็กและเยาวชนอย่างเป็นกันเอง รวมทั้งสอบถามตามความถนัดแต่ละด้านของเด็กและเยาชน เช่น พูดคุยสอบถามเป็นภาษาอังกฤษกับเด็กที่มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษ ทักทายเด็กเป็นภาษาจีนกับเยาวชนที่มีความถนัดภาษาจีน พูดคุยสอบถามกับเด็กที่มีความสามารถด้านกีฬา พร้อมกล่าวให้กำลังใจเด็กผู้ด้อยโอกาสด้วย