จับตาสตช.-อสส.-ป.ป.ช. หลังตร.แอบถ่ายอธิบดี-อัยการ คดีพัวพันเว็บมินนี่

11 ก.พ. 2567 | 11:22 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ก.พ. 2567 | 08:27 น.

จับตา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ-อัยการสูงสุด - ป.ป.ช. หลังตำรวจแอบถ่ายภาพอธิบดี-อัยการพิเศษ คดี 8 สีกากีพัวพันเว็บมินนี่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการสำนักการสอบสวน ส่งหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ตรวจสอบตำรวจที่พัวพันคดีเว็บพนันออนไลน์ของนาวสาวธันยนันท์ สุจริตชินศรี หรือมินนี่ว่า มีพฤติการณ์คุกคามเเอบถ่ายภาพนายกุลธนิตและสุริยน ประภาสะวัต อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1  ในการพิจารณาสำนวนคดีพนันออนไลน์

โดยพ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผู้ต้องหากับพวกรวม 8 คนส่งหนังสือร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ในการให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนของพนักงานอัยการดังกล่าว แต่ผู้ต้องหาได้ถ่ายภาพของนายกุลธนิตและนายสุริยนประกอบการร้องเรียนโดยพตท.คนหนึ่งเป็นผู้ถ่ายภาพประกอบการร้องเรียนว่า ตอนนี้หนังสือของนายกุลธนิตถึงมืออัยการสูงสุดเเละรอง ผบ.ตร.(พลตำรวจเอกธนา ชูวงศ์)ได้รับทราบเเล้วว่า อัยการผู้ใหญ่ถูกคุกคาม เเละอัยการสูงสุดได้มีหนังสือส่งถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว เเละสำนักงานอัยการสูฃสุดขอตรวจสอบเหตุการณ์ให้ชัดเจนก่อนที่จะดำเนินการในชั้นต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่9ก.พ.2567หน่วยคุ้มครองพยาน กรมคุ้มครองสิทธิเเละสรีภาพ กระทรวงยุติธรรมได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดูเเลความปลอดภัยของอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 แล้วหลังมีกระแสข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในเรื่องนี้นั้นทราบว่า  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รอให้พลตำรวจเอกธนาพิจารณาหนังสือร้องเรียนดังกล่าวก่อนที่จะมีการดำเนินการขั้นต่อไป

แหล่งข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุดกล่าวว่า   8นายตำรวจที่พัวพันคดีเว็บพนันออนไลน์กับนางสาวธันยนันท์นั้น ตอนนี้ยังทำงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  แม้จะโดนย้ายจากต้นสังกัดเดิมก็ตาม  ตรงนี้น่าตั้งข้อสังเกตว่าหลังจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง.) มีคำสั่งสำนักงาน ปปง.ที่ ย.2 /2567 ลงวันที่ 9 ม.ค.2567 ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราวกรณีนายณัฐวัตร พิมพ์สวัสดิ์ กับพวก มีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน โดยเป็นการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และความผิดฐานฟอกเงิน รวม 255 รายการ มูลค่ากว่า41ล้านบาท  โดยในจำนวนนี้ มีชื่อ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยเกตุ ,น.ส.ธันยนันท์ ,นายณัฐวัตร และพ.ต.อ.เขมริมทร์ พิศมัย

แหล่งข่าวกล่าวว่า ตรงนี้ยืนยันชั้นต้นว่าตำรวจบางนายในกรณีดังกล่าวที่มีความใกล้ชิดพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.มีความสัมพันธ์ทางการเงินกับนางสาวธันยนันท์ ทำไมสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่ดำเนินการใดๆเพิ่มเติมหากเทียบกับคดีใหม่ๆในข่วงนี้ที่ตำรวจบางนายกระทำความผิดในคดีต่างๆเเต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ตำรวจที่กระทำผิดออกจากราชการไว้ก่อนทันที 

“การติดตามความเคลื่อนไหวของนายกุลธนิตและนายสุริยนนั้นนับเป็นครั้งแรกๆที่ผู้บริหารของสำนักงานอัยการสูงสุดถูกตำรวจที่เป็นคนใกล้ชิดของผู้ถูกกล่าวหาในคดีพนันออนไลน์เเละฟอกเงินสั่งติดตามถ่ายภาพการดำรงชีวิตนับเป็นการข่มขู่การทำงาน    ตรงนี้ถือว่าละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน มีความผิดในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบรวมทั้งวินัยข้าราชการ  ต้องติดตามว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการอย่างไร”แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวว่า   ตอนนี้มีความพยายามจากบางฝ่ายในการช่วยเหลือตำรวจทั้ง8นาย โดยนายตำรวจระดับสูงบางคนพยายามประสานงานกับผู้ใหญ่หลายฝ่ายในสำนักงานอัยการสูงสุด จนเป็นที่น่าสังเกตว่ามีการแยกคดีนี้เป็นหลายส่วน ทั้งๆที่คดีมีความเกี่ยวข้องกันในข้อเท็จจริง เเละทราบว่ามีการแยกสำนวนการสั่งฟ้องผู้ต้องหาราวสี่สิบคน ซึ่งบางสำนวนสั่งฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจ บางสำนวนสั่งฟ้องประชาชน โดยผู้ต้องหาบางคนนั้นอาจมีการปล่อยให้หมดอายุความจนส่งฟ้องไม่ทัน ตรงนี้ต้องติดตามการดำเนินการในคดีนี้ที่สำนักงานอัยการสูงสุดกำลังดำเนินการเรื่องนี้ไปด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากผลการสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้มูลชั้นต้นว่า คดีที่8นายตำรวจที่พัวพันเว็บพนันของนางสาวธันยนันท์มีส่วนเกี่ยวข้องจริงนั้น สำนวนคดีจะต้องส่งต่อให้สำนักงานปปช.พิจารณาและไต่สวนความผิดที่ถูกกล่าวหาอีกชั้นหนึ่ง 

รายงานข่าวจากสำนักงานปปช.แจ้งว่า   เป็นที่น่าสังเกตว่าคำสั่งของประธานปปช.ในการแต่งตั้งประธานคณะอนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องกล่าวหาประจำสำนักไต่สวนและคณะอนุกรรมการฯในช่วงต้นปีนี้นั้นพบว่า      คณะอนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องกล่าวหาประจำสำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐ1เเละภาครัฐ2ที่กำกับดูแลกองทัพ ,ตำรวจ,ศาล,อัยการ  รวมทั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องกล่าวหาประจำสำนักไต่สวนการทุจริตรัฐวิสาหกิจ1 เช่น บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน)นั้นพบว่า นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการปปช.คนใหม่ได้รับหน้าที่ประธานอนุกรรมการฯ ดังกล่าว   

แหล่งข่าวกล่าวว่า โดยพบว่าการลงนามในคำสั่งแต่งตั้งแบ่งงานดังกล่าวของประธานปปช.เกิดขึ้นแบบทันทีในช่วงเวลาไม่นานมานี้ ส่งผลทำให้การทำงานที่คณะกรรมการไต่สวนฯชุดเดิมดำเนินการอยู่นั้นต้องยุติและส่งมอบหน้าที่ให้ชุดใหม่ทำงานทันที และบางคดีที่ดำเนินการไต่สวนก่อนชี้มูลเพื่อส่งให้กรรมการปปช.ชุดใหญ่ลงมตินั้นต้องยุติและเริ่มต้นใหม่ จนบางคดีที่สำคัญๆอาจขาดอายุความได้

รายงานข่าวกล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าว มีข้อสังเกตว่า อดีตเลขานุการกรรมการปปช.และอดีตที่ปรึกษากรรมการปปช.บางคน ที่เคยทำงานเป็นอนุกรรมการปปช.มาหลายปี เช่น”นายธ.”ที่เคยเป็นเลขานุการของอดีตกรรมการปปช.คนหนึ่ง,”นายส.”ที่เคยเป็นที่ปรึกษาอดีตกรรมการปปช.คนหนึ่งและเคยลงสมัครเป็นกรรมการปปช.รวมทั้ง”นายพ.”ที่ตอนนี้เป็นอัยการนั้น  ตอนนี้ทั้งสามคนมาร่วมงานกับนายเอกวิทย์ในฐานะอนุกรรมการปปช.หลายคณะ   

แหล่งข่าวกล่าวว่า ตอนนี้บุคลากรในสำนักงานปปช.ทราบว่า  ทั้งสามคนใกล้ชิดนายตำรวจใหญ่คนหนึ่งที่พยายามสร้างเครือข่ายในหลายองค์กรและยังใกล้ชิดอดีตกรรมการปปช.บางคนที่กำลังวางบุคคลที่ใกล้ชิดไว้ในสำนักงานปปช. โดยทราบว่า ทั้งสองคนร่วมกันวางบุคลากรไว้ในสำนักไต่สวนสำคัญๆในสำนักงานปปช.เพื่อตรวจสอบและวินิจฉัยข้อร้องเรียนที่อาจพาดพิงคนในเครือข่ายของตัวเองตามที่เคยมีกระแสข่าวจากสื่อมวลชนที่รายงานไปแล้ว 

“เช่นคลิปของนายตำรวจใหญ่คนหนึ่งที่อ้างถึงความใกล้ชิดกับอดีตกรรมการปปช.คนหนึ่งในการกลั่นกรองข้อร้องเรียนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเเละการร้องเรียนการทำงานของนายตำรวจใหญ่คนนึ้ ว่าหากการร้องเรียนมาถึงปปช.อย่างไรก็ปัดตก เป็นต้น ตรงนี้น่าพิจารณาว่าหากการร้องเรียนตำรวจบางคนที่ร้องเรียนการทำหน้าที่ของอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1ในกรณีล่าสุด หากสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งสำนวนดังกล่าวมาถึงปปช.นั้น อาจเป็นไปได้ว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวจะไม่ผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ

นายเอกวิทย์ได้ตรวจสอบบุคคลเหล่านี้ก่อนบรรจุเป็นอนุกรรมการฯหรือไม่เพราะอาจพัวพันคลิปดังกล่าวเเละตอนนี้ยังไม่ทราบความคืบหน้าของประธานปปช.ในกรณีพิจารณาคลิปดังกล่าวเเต่อย่างใดอยากให้สังคมสอบถามประธานปปช.ในเรื่องนี้ด้วย”รายงานข่าวระบุ