สรุปสาเหตุ ไฟไหม้เรือหลวงคีรีรัฐ ปืนใหญ่ "เรือหลวงชลบุรี" ลั่นใส่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 12.40 น. วันนี้ (14 มี.ค. 67) มีรายงานแจ้งว่า ได้เกิดเหตุไฟไหม้บน "เรือหลวงคีรีรัฐ" สังกัดกองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ

เหตุไฟไหม้ดังกล่าว เกิดขึ้นในระหว่างจอดเทียบท่าที่แหลมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยยังไม่ทราบสาเหตุ

รายงานข่าวระบุด้วยว่า ขณะนี้กองทัพเรือ(ทร.) เร่งตรวจสอบความเสียหายและสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้

หากมีความคืบหน้าฐานเศรษฐกิจจะรายงานให้ทราบต่อไป

จากนั้นมีการรายงานความคืบหน้าล่าสุด จากเหตุการณ์ไฟไหม้เรือหลวงคีรีรัฐ สังกัดกองเรือฟริเกตที่1 กองเรือยุทธการ ซึ่งเข้าประจำการในกองทัพเรือมาว่า 40 ปี ระหว่างจอดเทียบท่า แหลมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 

เบื้องต้นสาเหตุไฟไหม้เกิดจาก "ปืนใหญ่หัวเรือ" ขนาด 76/62 ของเรือหลวงชลบุรี ซึ่งจอดเทียบท่าอยู่ใกล้กัน ลั่นใส่เรือหลวงคีรีรัฐ ที่ท่าจอดเรือ ทำให้เกิดไฟไหม้และมีผู้บาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้นว่าสาเหตุมาจากอะไรกันแน่

ด้านผู้สื่อข่าวเนชั่นจังหวัดชลบุรี รายงานข้อมูลเพิ่มเติมว่าเมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้(14 มี.ค.67) มีรายงานด่วนว่า เรือหลวงคีรีรัตน์ หมายเลข 432 ซึ่งเป็นเรือรบฟริเกต ขีดสมรรถนะสามารถรบได้ใน 3 มิติ ทั้งทางอากาศ ผิวน้ำ และใต้น้ำ สังกัด กองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ รับใช้กองทัพเรือ และประเทศชาติมายาวนานกว่า 50 ปี

ปัจจุบันมี นาวาโท พิรัล สำอางคศรี เป็นผู้บังคับการเรือ ได้เกิดเหตุระเบิดจนเพลิงไหม้ตัวเรือ ขณะจอดเทียบท่า บริเวณท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 

เบื้องต้น พบมีกลุ่มควันปกคลุมทั่วบริเวณ ต้นเพลิงอยู่บริเวณช่วงห้องท้ายเรือด้านนอก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของกองทัพเรือ ได้นำรถดับเพลิง 4 คัน ระดมเข้าฉีดน้ำสกัด ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ 

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุของการเกิดระเบิด จนทำให้เพลิงไหม้เรือหลวงคีรีรัตน์นั้น เกิดจากลูกระเบิดค้างในลำปืนใหญ่ ปืนขนาด 76 มม. ของหัวเรือหลวงชลบุรี ที่จอดติดกัน ได้ลั่นใส่ท้ายเรือหลวงคีรีรัฐ เนื่องจากเมื่อวานนี้ ( 13 มี.ค.2567) เรือหลวงชลบุรี กลับจากการฝึกยิงปืนแต่ลูกปืนค้างรังเพลิง งัดไม่ออก วันนี้จึงได้ให้ช่างมาซ่อม

ซึ่งระหว่างซ่อมแซมปืนใหญ่อยู่นั้นได้เกิดปืนลั่น กระสุนพุ่งใส่เรือหลวงคีรีรัฐ จนทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ได้รับความเสียหาย

อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลสรุปจากกองทัพเรือเกี่ยวกับสาเหตุระเบิดจนเกิดเพลิงไหม้เรือหลวงครั้งนี้อย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้กำลังพลชั้นยศจ่า และพันจ่า ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 9 นาย ดังนี้  

1. พ.จ.อ.สุริญญา นิตย์บุญครอง (อาการสาหัส)
2. จ.อ.จักริน ทองมณี (สาหัส)
3. จ.ต.ศาสตราวุธ รองตะโหนด
4. จ.ท.อภิรักษ์ บุบผาลา
5. จ.อ.ตรีเพชร เกิดแย้ม
6. จ.อ.สุรศักดิ์ อาจศิริ
7. จ.อ.วงศธร อารมณ์
8. พ.จ.ต.อดิศักดิ์ ไชยบัวแก้ว
9. 9 พ.จ.อ.ศิวนาภ อยู่สุข

ขณะนี้ถูกนำตัวส่งรักษายังห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ 

สำหรับ เรือหลวงคีรีรัฐ (PF-432) รับใช้กองทัพเรือ และประเทศชาติมาถึง 50 ปี แม้จะใช้งานมานาน แต่ก็ยังเป็นเรือที่มีความสามารถในการรบทั้ง 3 มิติ ทางด้านอากาศ ผิวน้ำ และใต้น้ำได้เป็นอย่างดี มีกำลังพลประจำเรือที่มากด้วยประสบการณ์ สามารถถ่ายทอดวิชาทางการเรือให้กับทหารเรือรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี ทั้งนักเรียนนายเรือ และนักเรียนจ่าทหารเรือที่มาฝึกภาคปฏิบัติในทะเลเป็นประจำ 

โดยในปี พ.ศ.2514 กองทัพเรือไทยได้สั่งต่อเรือจาก บริษัท Norfolk Shipbuilding & Drydock Corporration ประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 1 ลำ คือ ร.ล.คีรีรัฐ วางกระดูกงูเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2515 ขึ้นระวางประจำการเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ.2517 มีระวางขับน้ำเต็มที่ 1,138 ตัน เป็นเรือประเภทเรือฟริเกตตรวจการณ์ (Patrol Frigate) มีอาวุธประจำเรือ ประกอบด้วย ปืนใหญ่เรือ OTO Melara 76/62 Compact ขนาด 76 มม./62 คาลิเบอร์ ปืนใหญ่กล Breda/Bofors Type 107 ขนาด 40 มม./70 คาลิเบอร์ ปืนใหญ่กล Rheinmetall Mk 20 DM6 ขนาด 20 มม./85 คาลิเบอร์ ปืนกล U.S. Ordnance M2HB ขนาด 12.7 มม. แท่นตอร์ปิโด Raytheon Mk 44 รางปล่อยระเบิดลึก Mk 9 สำหรับระเบิดลึก Mk 6 และ Mk 9