เชียงใหม่ ยังครองแชมป์ จุดความร้อนมากที่สุดในไทย และ คุณภาพอากาศเข้าขั้นแย่ที่สุดในโลก ข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) และจากดาวเทียมอีกหลายดวง เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ยังระบุอีกว่า จุดความร้อนที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 1,164 จุด ตามด้วยพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 520 จุด พื้นที่เกษตร 291 จุด พื้นที่ สปก. 119 จุด แหล่งชุมชนและอื่นๆ 108 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 6 จุด
สำหรับจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนมากที่สุด คือ จังหวัดเชียงใหม่ 324 จุด
ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านพบจุดความร้อนต่อเนื่อง โดยสูงสุดวานนี้ยังคงเป็นเมียนมา 6,148 จุด ตามด้วยลาว 5,137 จุด ไทย 2,208 จุด เวียดนาม 703 จุด กัมพูชา 422 จุด และมาเลเชีย 96 จุด
ในวันเดียวกัน เว็บไซต์ IQAir จัดอันดับคุณภาพอากาศตามเมืองสำคัญของโลก พบว่า ณ เวลา 08.00 น.เชียงใหม่ ประเทศไทย ยังติดอันดับหนึ่งต่อเนื่อง เป็นเมืองที่มีอากาศแย่ที่สุดในโลก ระดับมลพิษทางอากาศมีผลกระทบต่อทุกคน ล่าสุดพบว่า มีหลายพื้นที่ที่ระดับมลพิษมีผลกระทบต่อทุกคนอย่างรุนแรง พร้อมมีคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงอยู่ในที่โล่งแจ้ง ปิดหน้าต่าง สวมหน้ากากภายนอกบ้าน และเปิดเครื่องฟอกอากาศ
ด้าน ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กรมควบคุมมลพิษ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ วันนี้ (6 เม.ย.) อัปเดตล่าสุดเวลา 12.00 น. พบว่า ภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเทศ พบเกินค่ามาตรฐานใน 40 จังหวัด คือ
กรุงเทพฯ จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.น่าน จ.แม่ฮ่องสอน จ.พะเยา จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.ลพบุรี จ.อ่างทอง จ.กาญจนบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.บึงกาฬ จ.หนองคาย จ.เลย จ.อุดรธานี จ.นครพนม จ.หนองบัวลำภู จ.สกลนคร จ.มุกดาหาร จ.ขอนแก่น จ.กาฬสินธุ์ จ.ร้อยเอ็ด จ.อำนาจเจริญ จ.ชัยภูมิ จ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี และ จ. นครราชสีมา
สรุปสถานการณ์เป็นภาคต่างๆ ดังนี้
กรมควบคุมมลพิษ มีคำแนะนำทางสุขภาพ ดังนี้
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK