แล้งคุกคาม“กระบี่”หนัก ประปาเริ่มแบ่งพื้นที่จ่ายน้ำเป็นเวลาแล้ว

นายอิทธิชัย ตันบุตร รองประธานกลุ่มพัฒนากระบี่ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำดิบขาดแคลนในจังหวัดกระบี่ ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น จนการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดกระบี่ ประกาศลดแรงดันน้ำประปาในหลายพื้นที่ เริ่มแบ่งจ่ายน้ำเป็นเวลามาตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา และยังไม่มีใครทราบว่าสถานการณ์จะคลี่คลายไปเมื่อไหร่ 

ขณะที่ประชาชนหลายพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำไม่ไหล น้ำไหลอ่อน ไล่ตั้งแต่ ตำบลกระบี่น้อย ตำบลกระบี่ใหญ่ ตำบลทับปริก ตำบลปากน้ำ ตำบลไสไทย ตำบลอ่าวนาง ตำบลหนองทะเล ตำบอลคลองประสง และพื้นที่อำเภอเหนือคลอง ซึ่งหากปล่อยให้ยืดเยื้อต่อไปก็จะกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม

รองประธานกลุ่มพัฒนากระบี่ กล่าวว่า พรุ่งนี้ชาวกระบี่จะได้เฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ตามประเพณี สาดฉ่ำกันให้สนุก แต่ต้องไม่ลืมด้วยว่า ปีนี้จังหวัดของเราเผชิญกับภัยแล้งรุนแรง และยังไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์นี้จะอยู่กับชาวกระบี่ไปอีกนานแค่ไหน 

“13 เมษายนนี้ เล่นสงกรานต์อย่างไรให้สนุกและประหยัด จากการที่นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ ได้ไปหาแหล่งน้ำจากเอกชนเพื่อเข้ามาเติมในระบบ เพื่อให้พี่น้องได้เล่นน้ำสงกรานต์ตามประเพณี ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน แต่ก็อยากจะฝาก ให้ทุกท่านเล่นสงกรานต์อย่างมีสติเพื่อที่จะนำน้ำบางส่วนมาบริหารจัดการ เพื่อที่จะทำให้พวกเราฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปได้”

นายอิทธิชัย กล่าวด้วยว่า ขณะนี้จังหวัดกระบี่ประสบกับภัยแล้งเนื่องจากขาดแหล่งน้ำดิบ ที่จะเอามาทำน้ำประปา วิกฤตครั้งนี้ถือเป็นวาระแห่งชาติ เนื่องจากจังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดที่ทำรายได้ปีละกว่า แสนล้าน เมื่อไม่มีน้ำนักท่องเที่ยวก็ไม่มา ภาษีก็เก็บไม่ได้ 

“วิกฤติภัยแล้งครั้งนี้ พวกเราชาวกระบี่จะต้องผ่านไปด้วยกันให้ได้ และจากการที่ได้ลงพื้นที่ได้พบประเด็นปัญหาก็คือ ท่อแตกหลายจุด ก็อยากจะฝากมายังพี่น้องผู้ที่พบเจอได้ประสานมายังผม ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่ง เพื่อที่จะได้ช่วยติดตามให้ทางการประปาส่วนภูมิภาคเข้าดำเนินการซ่อมโดยเร่งด่วน”

อย่างไรก็ตาม ขอฝากผู้ที่มีอำนาจให้เร่งแก้ไขในเรื่องของการบริหาร จัดการ น้ำ อย่างเป็นระบบและยั่งยืน เพราะสถานการณ์น้ำดิบน่าเป็นห่วงมาก

"เท่าที่ทราบการประปาส่วนภูมิภาคสาขากระบี่ วางแผนขอใช้น้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำคลองแห้ง ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ จากกรมชลประทาน แต่ยังไม่ได้รับงบประมาณในการวางท่อส่งน้ำประมาณ 7 กิโลเมตรมายังอ่างเก็บน้ำของการประปาแต่อย่างใด

การที่นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ ประสานขอน้ำจากเอกชนมา 5 พันลูกบาศก์เมตร เพื่อให้พี่น้องได้เล่นน้ำสงกรานต์นั้น เป็นเพียงแค่การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ต้องเร่งแก้ที่ต้นตอคือการหาแหล่งน้ำดิบถาวร ไม่ให้เกิดภัยแล้งซ้ำซาก” นายอิทธิชัย กล่าวทิ้งท้าย