วันวิสาขบูชา 2567 ตรงกับวันพุธที่ 22 พ.ค. ประวัติ ความหมาย และความสำคัญ

19 พ.ค. 2567 | 23:42 น.
อัปเดตล่าสุด :20 พ.ค. 2567 | 00:11 น.

วันวิสาขบูชาปี 2567 ตรงกับวันพุธที่ 22 พฤษภาคม วันนี้มีประวัติความเป็นมาและมีความสำคัญต่อพุทธศาสนิกชนทั่วโลกอย่างไร ที่นี่มีคำตอบ

วันวิสาขบูชา (Vesak Day) เป็น วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ปีนี้ตรงกับวันพุธที่ 22 พฤษภาคม เป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 และเป็นวันหยุดราชการ

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2542 สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้มีมติรับรองให้ “วันวิสาขบูชา” เป็นวันสำคัญระดับสากล โดยประกาศให้วันวิสาขบูชา หรือ Vesak Day เป็นวันสำคัญของโลก เนื่องด้วยสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นมหาบุรุษผู้ให้ความเมตตาต่อมวลมนุษย์ทั้งหลายด้วยการยกเลิกการแบ่งชนชั้นวรรณะ ซึ่งนับเป็นการเลิกทาสโดยไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อ

สำหรับ ประวัติของวันวิสาขบูชา นั้น ย้อนกลับไปเมื่อกว่า 2,500 ปีก่อนสมัยพุทธกาล ณ ดินแดนที่เรียกว่า ชมพูทวีป ได้มีเหตุการณ์สำคัญ 3 เหตุการณ์ทางพระพุทธศาสนาเกิดขึ้นในวันเดียวกันแต่ต่างปีกัน

เหตุการณ์แรก เป็นวันประสูติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยพระนางสิริมหามายา พระมารดา ได้ประสูติพระโอรส ณ ใต้ต้นสาละ ในพระราชอุทยานลุมพินีวัน ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 ก่อนพุทธศักราช 80 ปี ครั้นพระกุมารประสูติได้ 5 วันก็ได้รับการถวายพระนามว่า "สิทธัตถะ" แปลว่า "สมปรารถนา"

ทั้งสามเหตุการณ์สำคัญ คือการประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ล้วนเกิดตรงกับวันเพ็ญเดือนหก หรือเดือนวิสาขะทั้งสิ้น

เหตุการณ์ที่สอง เป็นวันที่เจ้าชายสิทธัตถะได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อตอนเช้ามืดของวันพุธ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีระกา ก่อนพุทธศักราช 45 ปี ซึ่งปัจจุบันสถานที่ตรัสรู้แห่งนี้ เรียกว่า “พุทธคยา” ณ ใต้ร่มโพธิ์พฤกษ์ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม พระองค์ทรงตรัสรู้ อริยสัจสี่ คือ ความจริงอันประเสริฐ หมายถึง ความจริงของชีวิตที่ไม่ผันแปร 4 ประการ คือ

  • ทุกข์ ได้แก่ ปัญหาของชีวิต พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้เพื่อให้ทราบว่า มนุษย์ทุกคนมีทุกข์เหมือนกัน ทั้งทุกข์ขั้นพื้นฐาน คือ ทุกข์ที่เกิดจากการเกิด การแก่ และการตาย และทุกข์ที่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตประจำวัน คือ ทุกข์ที่เกิดจากการพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ทุกข์ที่เกิดจากการประสบกับสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก ทุกข์ที่เกิดจากไม่ได้ตั้งใจปรารถนา รวมทั้งทุกข์ที่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตด้านต่างๆ อาทิ ความยากจน
  • สมุทัย คือ เหตุแห่งปัญหา พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้เพื่อให้ทราบว่า ทุกข์ทั้งหมดซึ่งเป็นปัญหาของชีวิตล้วนมีเหตุให้เกิดเหตุนั้น คือ ตัณหา ได้แก่ ความอยากได้ต่างๆ ซึ่งประกอบไปด้วยความยึดมั่น
  • นิโรธ คือ การแก้ปัญหาได้ พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้เพื่อให้ทราบว่า ทุกข์ คือ ปัญหาของชีวิต ทั้งหมดที่สามารถแก้ไขได้นั้นต้องแก้ไขตามทางหรือวิธีแก้ 8 ประการ
  • มรรค คือ การปฏิบัติเพื่อจำกัดทุกข์ เพื่อหลุดพ้นจากทุกข์ การปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหา เพื่อบรรลุเป้าหมายการแก้ปัญหาที่ต้องการ

เหตุการณ์ที่สาม ซึ่งเป็นเหตุการณ์สุดท้าย เป็นวันเสด็จดับขันธปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้และแสดงธรรมเป็นเวลานานถึง 45 ปี จนมีพระชนมายุได้ 80 พรรษา ทรงประชวรอย่างหนักแต่ทรงอดกลั้นมุ่งเสด็จไปยังเมืองกุสินารา ประทับ ณ ป่าสาละ เพื่อเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน

ก่อนวาระสุดท้ายของคืนวันเพ็ญเดือนหก พระพุทธองค์ทรงประทานปัจฉิมโอวาทว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลายอันว่าสังขารทั้งหลายย่อมมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวงอันเป็นประโยชน์ของตนและประโยชน์ของผู้อื่นให้ บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด" หลังจากนั้นก็เสด็จเข้าดับขันธ์ปรินิพพาน ใต้ร่มสาลพฤกษ์ ในสาลวโนทยาน พระราชอุทยานของเจ้ามัลละ เมืองกุสินารา

ทั้งสามเหตุการณ์สำคัญดังกล่าว ล้วนเกิดตรงกับวันเพ็ญเดือนหก หรือเดือนวิสาขะทั้งสิ้น ชาวพุทธจึงนับถือว่า วันเพ็ญเดือนหกนี้เป็นวันที่รวมวันคล้ายวันเกิดเหตุการณ์สำคัญ ๆ ของพระพุทธเจ้าไว้ และนิยมประกอบพิธีบำเพ็ญบุญกุศลและประกอบพิธีพุทธบูชาเพื่อถวายสักการะรำลึกถึงแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสืบทอดยาวมาจนถึงปัจจุบัน

องค์การสหประชาติประกาศให้วันวิสาขบูชา หรือ Vesak Day เป็นวันสำคัญของโลก

ความหมายของ "วิสาขปุรณมีบูชา"

การบูชาในวันเพ็ญเดือนหก คือ ความหมายของวันวิสาขบูชา ซึ่งย่อมาจากคำว่า "วิสาขปุรณมีบูชา" แปลว่า "การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ" ซึ่งเป็นเดือนที่สองตามปฏิทินของอินเดียตรงกับวันเพ็ญเดือนหกตามปฏิทินจันทรคติของไทย

การบูชาวันวิสาขบูชา เริ่มต้นครั้งแรกในประเทศไทยสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี สันนิษฐานว่า ได้รับแบบแผนมาจากลังกา เมื่อประมาณ พ.ศ.420 พระเจ้าภาติกุราช กษัตริย์แห่งกรุงลังกาได้ประกอบพิธีวิสาขบูชาขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา จากนั้นกษัตริย์ลังกาพระองค์อื่น ๆ ได้ปฏิบัติประเพณีวิสาขบูชานี้สืบทอดต่อกันมา ซึ่งในสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ประเทศไทยมีความสัมพันธ์ด้านพระพุทธศาสนากับประเทศลังกาอย่างใกล้ชิด มีพระสงฆ์จากประเทศลังกาหลายรูปเดินทางเข้ามาเผยแพร่พระพุทธศาสนาและนำการประกอบพิธีวิสาขบูชาเข้ามาปฏิบัติในประเทศไทย

กิจกรรมสำคัญในวันวิสาขบูชา

เนื่องจากมีเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา การถือกำเนิดของพระพุทธศาสนา คือ เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ดังนั้น พุทธศาสนิกชนจึงให้ความสำคัญกับวันวิสาขบูชา และเพื่อบำเพ็ญกุศลระลึกถึงพระพุทธเจ้า ชาวพุทธจึงร่วมกันจัดพิธีทำบุญใหญ่หรือจัดกิจกรรมต่างขึ้นมา

การประกอบพิธีในวันวิสาขบูชา

  1. พิธีหลวง คือ พระราชพิธีสำหรับพระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ ที่ทรงประกอบในวันวิสาขบูชา
  2. พิธีราษฎร์ คือ พิธีของประชาชนชาวพุทธทั่วไป
  3. พิธีของพระสงฆ์ คือ พิธีที่พระสงฆ์ประกอบศาสนกิจในวันวิสาขบูชา

การทำบุญตักบาตร

ในวันวิสาขบูชา พุทธศาสนิกชนชาวไทยนิยมทำบุญตักบาตรในตอนเช้า เตรียมจัดสำรับคาวหวานไปทำบุญถวายภัตตาหารที่วัด พร้อมกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ญาติที่ล่วงลับ และเจ้ากรรมนายเวร ปฏิบัติธรรม ฟังพระธรรมเทศนา รักษาศีล 5 ศีล 8 และบำเพ็ญบุญกุศลอื่น ๆ ทำความดีและทำตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า รวมถึงการทำทานด้วยการปล่อยนกและปล่อยปลา เป็นต้น

การเวียนเทียน

ในช่วงเย็นก็เข้าร่วมพิธีเวียนเทียนรอบอุโบสถที่วัดในตอนค่ำเพื่อรำลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ซึ่งการจุดธูปเทียนและถือดอกไม้เป็นเครื่องสักการะบูชาในมือ แล้วเดินเวียนรอบโบสถ์ 3 รอบ โดยขณะที่เดินนั้นพึงตั้งจิตให้สงบ พร้อมสวดระลึกถึงพระพุทธคุณ ด้วยการสวดบทอิติปิโส (รอบที่หนึ่ง) ระลึกถึงพระธรรมคุณ ด้วยการสวดสวากขาโต (รอบที่สอง) และระลึกถึงพระสังฆคุณ ด้วยการสวดสุปะฏิปันโน (รอบที่สาม) จนกว่าจะเวียนจบ 3 รอบ จากนั้นนำธูปเทียนดอกไม้ไปบูชาตามโบสถ์

นอกจากนี้ ยังอาจมีการประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือน วัด และสถานที่ราชการ และการรวมตัวกันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เช่น การเก็บกวาดขยะตามบริเวณวัดหรือแหล่งชุมชน หรือเปิดโรงทานแจกอาหารแก่บุคคลทั่วไป เป็นต้น ถือเป็นการทำความดี ทำให้เกิดความสบายใจ สงบใจ และเป็นการทำบุญกุศลอีกรูปแบบหนึ่ง